คลัง เตรียมแจ้งพาณิชย์ ตรวจร้าน "คนละครึ่งพลัส" ปรามโก่งราคาสินค้า-บวก VAT 7%
คลังเตือนผู้ค้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ห้ามบวกราคาสินค้า หรืออ้างภาษี VAT ชี้รัฐบาลช่วยกระตุ้นยอดขายอยู่แล้ว ควรคืนกำไรให้ประชาชน พร้อมประสานพาณิชย์-ท้องถิ่นลงพื้นที่ตรวจ หากพบโก่งราคามีสิทธิโดนสอบ
KEY
POINTS
- กระทรวงการคลังเตรียมแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์เข้าตรวจสอบร้านค้าในโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างการบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบราคา หากพบการโก่งราคาจะถูกดำเนินการ ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการตักเตือนก่อน
- รัฐบาลย้ำเตือนผู้ค้าไม่ให้ขึ้นราคาหรือคิดค่าบริการเพิ่ม และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแสหากพบการกระทำผิด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีรายงานว่าผู้ค้าที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" บางรายมีการขึ้นราคาสินค้า โดยฉวยโอกาสกล่าวอ้างว่าต้องขอบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% หรือ 10% ว่า เรื่องนี้เตรียมแจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเตือนแล้ว จริง ๆ แล้วนโยบายนี้ ต้องการที่จะช่วยชาวบ้าน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าว ไม่ควรทำ เพราะการอ้างบวกภาษีเช่นนี้ไม่ต่างจากการขอขึ้นราคาสินค้า โดยย้ำว่าผู้ค้าไม่ควรจะบวกราคาสินค้าหรือขอคิดค่าบริการพิเศษใด ๆ เนื่องจากรัฐบาลได้เข้าช่วยเหลือทำให้ผู้ค้าขายดีขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ค้าก็ต้องช่วยประชาชนผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
"กระทรวงคลังได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบราคาที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ทางการจะดำเนินการเข้าตรวจสอบ” นายลวรณ กล่าว
สำหรับมาตรการลงโทษ นายลวรณกล่าวว่า หากยังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายการทุจริต อาจจะใช้วิธีการ "เตือน" ก่อน พร้อมกันนี้ ได้ขอร้องให้ประชาชนผู้บริโภคช่วยกันแจ้งเบาะแสหากพบพฤติกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีที่จะเข้าร่วมในโครงการคนละครึ่ง พลัสนั้น ได้มีการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วในวันนี้ (3 พ.ย.2568) ซึ่งมีรายงานว่า มีผู้ให้บริการรวม 4 รายเข้ามาร่วมโครงการ ได้แก่ Line Man, GrabFood, Robinhood และ ShopeeFood โดยการเริ่มใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2568
ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ย. 2568 เวลา 12.00 น. พบว่า มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรี่ ทั้งสิ้น 40,722 ร้านค้า แบ่งเป็น Line Man จำนวน 22,831 ร้านค้า, GrabFood จำนวน 15,544 ร้านค้า, Robinhood จำนวน 590 ร้านค้า และ ShopeeFood จำนวน 1,757 ร้านค้า


