posttoday

ธ.ก.ส. ชงบอร์ด พ.ย.นี้ ใช้ AMC In-house สางหนี้เกษตรกรอายุ 70 ปี มูลหนี้กว่า 5.5 พันลบ.

27 ตุลาคม 2568

ธ.ก.ส. เผย เล็งใช้ "AMC In-house" แทนการร่วมทุนองค์กรนอก ลุยแก้หนี้ NPL ทุกสัญญาของเกษตรกร 70 ปีขึ้น 2.8 หมื่นราย มูลหนี้กว่า 5.5 พันล้านบาท แทน AMC ร่วมทุนภายนอกที่ทำได้ยาก และใช้เวลานาน เตรียมชงเข้า Full Board อนุมัติ ต้น พ.ย.นี้

KEY

POINTS

  • ธ.ก.ส. เตรียมเสนอแผนต่อคณะกรรมการในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อใช้แนวทาง "AMC In-house" หรือการบริหารจัดการหนี้สินภายในองค์กรเอง
  • เป้าหมายหลักคือกลุ่มเกษตรกรลูกหนี้ NPL ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งมีมูลหนี้รวมประมาณ 5,500 ล้านบาท
  • การเลือกใช้รูปแบบ AMC In-house เพื่อให้สามารถดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้หรือลดหนี้ (Haircut) ได้รวดเร็วกว่าการร่วมทุนกับหน่วยงานภายนอกซึ่งมีขั้นตอนซับซ้อนและใช้เวลานาน

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดการหนี้เรื้อรังของเกษตรกรสูงวัยว่า ธ.ก.ส. ว่า ได้เสนอแนวทางการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) โดยเปลี่ยนจากการร่วมทุนภายนอก มาเป็นการดำเนินการ "AMC in-house" ภายในธนาคารเอง 

 

โดยระบุว่า ความยากของการตั้ง AMC ในรูปแบบการเข้าร่วมทุนกับหน่วยงานอื่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากภายใต้พระราชบัญญัติของ ธ.ก.ส. กำหนดว่า หากจะร่วมทุนกับหน่วยงานใด หน่วยงานนั้นจะต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรเหมือนกัน ซึ่งในประเทศไทยปัจจุบันยังไม่มี หากจะให้มีวัตถุประสงค์ดังกล่าว หน่วยงานอื่นๆ จะต้องไปจดทะเบียนเพิ่มเติม ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ

นอกจากนี้ การเข้าร่วมทุนกับหน่วยงานอื่น เช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) หรือ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เพื่อจัดการหนี้เฉพาะกิจนั้น ถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลานานมาก  และต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ด้วยเหตุนี้ ธ.ก.ส. จึงพิจารณาแนวทางที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าในระยะเวลาอันสั้น คือการใช้ "AMC In-house" หรือการบริหารจัดการภายในองค์กร

 

โดยแนวทาง AMC In-house นั้น จะเป็นการใช้มติครม. หรือกฎกระทรวง หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการที่จะลดหนี้ (Haircut) หรือ ปรับโครงสร้างหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้เกษตรกรที่มีอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป
กลุ่มเป้าหมายเร่งด่วนที่สุดที่ ธ.ก.ส. มุ่งเน้นไปที่ลูกหนี้เกษตกรที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในทุกสัญญา

  • • กลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 28,000 ราย
  •  มีมูลหนี้รวมประมาณ 5,500 ล้านบาทจาก กลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส.
  • จากกลุ่มลูกค้าธ.ก.ส.ทั้งหมดที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป มีจำนวนรวมกว่า 200,000 คน

นายฉัตรชัย ยังระบุด้วยว่า ความซับซ้อนของหนี้เกษตรกร ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้การจัดการหนี้ยากกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป คือ


1. ลูกหนี้ 1 คน อาจมี 7-8 สัญญา ซึ่งอาจเป็นสินเชื่อระยะยาว  หรือสินเชื่อเพื่อทุนหมุนเวียน คละกันไป และบางสัญญาก็เป็น NPL ในขณะที่บางสัญญายังดีอยู่


2. หลักประกันมีความหลากหลาย และมีความซับซ้อน เช่น บางสัญญามีหลักประกันเป็นสิ่งปลูกสร้าง บางสัญญามีหลักประกันเป็นบุคคล บางสัญญามีการค้ำประกันไขว้ ค้ำร่วม หรือค้ำกลุ่ม ซึ่งสะท้อนบริบทของเกษตรกรที่ไม่มีหลักประกันที่ดิน 

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นด้านกฎหมาย และหลักประกัน แม้ว่ามูลค่าหนี้ในกลุ่มอายุ 70 ปี NPL ทุกสัญญาจะอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท แต่ มูลค่าหลักประกันกลับสูงถึงกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้การพิจารณา Haircut ต้องทำภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเข้มงวด  


ทำให้ ปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้เสนอแนวทางดังกล่าวผ่านคณะอนุกรรมการแล้ว แต่ให้กลับไปดูรายละเอียดเรื่องขอบเขตอำนาจก่อนการนำเสนอใหม่ การอนุมัติขั้นสุดท้ายคาดว่า จะถูกนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ (Full Board) ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้


"ดังนั้น สิ่งที่จะทำได้ในระยะเวลาสั้น พึ่งผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดธ.ก.ส.ไป บอร์ดก็ให้เราไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นำมาเสนอใหม่  คือเราจะเอามาทำเอง เราเรียกมันว่า  AMC in-house  ซึ่งเป็นการใช้มติครม. หรือกฎกระทรวงที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการลดหนี้ หรือ  Haircut ปลดหนี้ บางส่วนกับเกษตรกรไที่อายุเกิน 70 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องรอการตั้งบริษัทร่วมทุนซึ่งต้องใช้เวลานานมาก" นายฉัตรชัย กล่าว

 

ทั้งนี้นายฉัตรชัย ยังย้ำว่า ธ.ก.ส. ไม่ได้มีนโยบายในการยึดที่ดินทำกินของเกษตรกร เพื่อนำไปขายตลาด และธนาคารจะยังคงปล่อยให้ดำเนินต่อไป

ข่าวล่าสุด

ปตท. จัดละครเพลง "Still On My Mind ในดวงใจนิรันดร์" รำลึกพระพันปีหลวง!