posttoday

SCBX ชี้ไทยวิกฤต-แตกแยก-ไร้เชื่อมั่น ปฏิรูปประเทศให้แข็งแรงยาก

09 ตุลาคม 2568

SCBX ชี้ไทยเผชิญ “วิกฤตซึมลึก” เศรษฐกิจโตต่ำ 2% จี้รัฐเร่งสร้าง “ความเชื่อมั่น-ความต่อเนื่อง” เพื่อปฏิรูปประเทศให้กลับมาแข็งแรง

KEY

POINTS

  • นายอาทิตย์ นันทวิทยา CEO ของ SCBX ระบุว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญวิกฤตหลายด้าน ทั้งการเติบโตต่ำ หนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะสูง และการสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
  • ปัญหาสำคัญที่ทำให้การปฏิรูปประเทศทำได้ยากคือความแตกแยกในสังคม ซึ่งทำให้นโยบายที่ดีถูกต่อต้านและไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
  • ทั้งประเทศกำลังอยู่ในสภาวะขาดความเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  • จี้รัฐเร่งสร้าง “ความเชื่อมั่น-ความต่อเนื่อง” เพื่อปฏิรูปประเทศให้กลับมาแข็งแรง

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงาน Thailand Economic Outlook 2026 : Out of the Trap หัวข้อ ปฏิรูปโครงสร้าง ทางรอดเศรษฐกิจไทยโตยั่งยืน ที่จัดขึ้นโดย กรุงเทพธุรกิจ ว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะน่ากังวล อยู่ในวิกฤต แต่เป็นวิกฤตที่จะค่อยๆ เกิดขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่อง และถูกซ้ำเติมด้วยโควิด-19 ซึ่งสร้างแผลเป็นขนาดใหญ่ กระทบต่อเศรษฐกิจ และภาคธุรกิจ ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนสูง และเป็นปัญหาเรื้อรัง รวมทั้งปัญหาหนี้สาธารณะ ที่มีการใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้น แต่ไม่ค่อยได้ผล 

โดยประเทศไทยอยู่ในสภาพที่มีการเจริญเติบโตต่ำมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ซึ่งไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 2% 

ขณะที่ประเทศไทยมีภาระหนี้สูงทั้งในภาคครัวเรือน ซึ่งพุ่งสูงขึ้นมามากหลังโควิด และหนี้ภาครัฐบาล โดยภายในปี 2570 เพดานหนี้สาธารณะจะแตะ 70% แม้จะไม่มีการกู้เพิ่มหรือขยายเพดานก็ตาม

นอกจากนี้ ประเทศไทยสูญสียความสามารถในการแข่งขันในหลายมิติ ทั้งในภาคเอกชน ระดับ SMEs, Supply Chain และ Value Chain อีกทั้งมีการลงทุนต่ำมาก ทั้งการลงทุนจากภาคเอกชน การลงมทุนภาครัฐ และการลงทุนต่างประเทศ

ที่สำคัญไทยอยู่ในสภาวะที่ทั้งประเทศขาดความเชื่อมั่นว่าไทยจะไปต่อ และกลับมาแข็งแรง 

นายอาทิตย์ กล่าวว่า เปรียบระบบเศรษฐกิจไทยเหมือน “เครื่องยนต์” จะเห็นได้ว่าขณะนี้วิ่งอยู่แค่ 2 สูบ จาก 6-8 สูบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้อง “ติดเครื่องยนต์” ให้กลับมาวิ่งเต็มสูบ หรือกระทั่งต้องพิจารณาเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ใหม่ เช่น Hybrid หรือ EV 

“ต้องถามตัวเองใหม่ว่าตกลงจะต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือเราจะต้องไปใช้ Hybrid หรือ EV หรือเปล่า ซึ่งยังเป็นเรื่องระยะยาวแต่ความจำเป็นเฉพาะหน้า คือเราต้องติดเครื่องยนต์นี้ให้ได้ ปัญหาคือเราจะติดเครื่องยนต์ได้อย่างไร ถ้าเรายังทั้งประเทศขาดความเชื่อมั่นว่าประเทศมันจะกลับมาแข็งแรง ซึ่งผมยังเชื่อว่าเรายังไม่ค่อยเชื่อมั่น ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อมั่นรัฐบาล แต่ว่าปัญหามัน มันมีหลากหลายมิติ และเป็นสังกะตัง พันกันอยู่” นายอาทิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่การขาดความรู้หรือความคิด แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้การปฏิรูปไม่เกิดขึ้น เนื่องจากไทยยังเป็นประเทศที่มีความแตกแยก ซึ่งประเทศที่มีความแตกแยกจะไม่มีความเจริญ และทำให้ยากต่อการนำนโยบายที่ดีไปปฏิบัติ เพราะอีกฝ่ายจะต่อต้านเสมอ ดังนั้นจะต้องมีความสามัคคี 

รวมไปถึงการขาดความต่อเนื่อง โดยการจะติดเครื่องยนต์ต้องทำให้คนเกิดความเชื่อมั่นว่านโยบายจะมีความต่อเนื่อง และการปฏิรูปเป็นเรื่องยาวมาก จำเป็นต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ไม่มีการล้มหรือเปลี่ยนแปลงกลางคัน เพราะหากเดินไปแล้วใส่เกียร์ถอยอีกแล้วดับเครื่อง ประเทศก็จะไม่ไปไหน 

อีกทั้งยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องรับความจริง และสื่อสารให้ชัดเจน รวมถึงการปฏิรูประบบงบประมาณของราชการ เพื่อลดรายจ่ายประจำและเพิ่มสัดส่วนงบประมาณสำหรับการลงทุน เพราะหากเครื่องยนต์ไม่ติด ถ้าไม่นำเงินไปซื้อน้ำมันมาเติมก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้

“ต้องรับความจริง สื่อสารให้ชัดเจน และก็ไม่มี agenda อื่น ทำเพื่อประเทศ รักกัน ทำให้ประเทศกลับมาให้ ได้ ความมุ่งมั่นตั้งใจ จะทำให้เราสามารถปฏิรูปประเทศไทยให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งหนึ่ง” นายอาทิตย์ กล่าว  

ข่าวล่าสุด

กทม.เผยยอดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสะสมกว่า 2.35 แสนคน