posttoday

อวดดี!!

06 กุมภาพันธ์ 2554

การอวดดีไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะครับ ‌เพียงแต่ว่าจะต้องมีดีมาอวดจริงๆ ไม่ใช่อวดดีแต่ท่าทาง ในขณะที่ข้างในกลวง....

การอวดดีไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะครับ ‌เพียงแต่ว่าจะต้องมีดีมาอวดจริงๆ ไม่ใช่อวดดีแต่ท่าทาง ในขณะที่ข้างในกลวง....

โดย...อานนท์

ตามที่จั่วหัวไว้ว่า “อวดดี” นะครับ ผมคิดว่าคำ‌นี้มีนัยซ่อนอยู่มากมายเลยทีเดียว และน่าจะเป็นข้อคิดดีๆ สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้

ประการแรก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย‌เรา โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่นั้น มักจะเป็นคนที่มีความคิดดีๆ มีไอเดียเด็ดๆ ประเภทแปลก แหวกแนว ไม่เหมือนใคร และสามารถพัฒนาให้‌เป็นการตลาดที่มีมูลค่าได้

แต่ด้วยนิสัยแบบคนไทย ในบางครั้งเราไม่ค่อย‌กล้าที่จะอวดดี คนคิดเก่งๆ หลายคนได้แต่คิด โดย‌เฉพาะอย่างยิ่งหากคิดแบบหลุดโลก คิดแบบแปลก‌ใหม่ จะไปบอกใครเขาก็กลัวเขาจะหาว่าบ้า ก็เลย‌ได้แต่เก็บงำเอาไว้ ทั้งๆ ที่ถ้าหากมีความกล้าพอที่จะอวดสิ่งดีๆ ที่เราคิด หรือเราทำอยู่ ก็อาจจะ‌กลายเป็นของดีขึ้นมาได้

ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรจะต้อง‌ปรับให้มากก็คือ อวดดีให้มากขึ้น แต่จะต้องเป็น‌การอวดดีที่ผ่านการคิด ไตร่ตรองมาแล้วว่า จะ‌สามารถเกิดเป็นสินค้า หรือบริการ เกิดเป็นมูลค่า‌ที่สร้างการตลาดได้

ผมอยากยกตัวอย่างสิ่งที่ในอดีตหลายคนเคย‌บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว เช่น ขนม‌เค้กปลาช่อน ที่ตอนคิดแรกๆ ก็มีแต่คนบอกว่าคิด‌ได้ยังไง แต่ตอนนี้กลายเป็นสินค้าขายดิบขายดี ‌หรือสปาในแบบแปลกๆ เช่น สปาช็อกโกแลต หรือแปลกสุดๆ อย่างสปางู ก็ปรากฏว่าสามารถ‌ทำการตลาดได้

ในเรื่องของการอวดดีนี้ ผมคงต้องขอแนะนำ‌ว่า หากใครคิดอะไรขึ้นมาได้ ขั้นแรกที่ควรจะทำก็‌คือ ขยายไอเดียนั้นให้คนใกล้ชิดฟังก่อน เช่น คน‌ในครอบครัว เพื่อนสนิท แล้วลองฟังพวกเขาว่า ‌คนใกล้ชิดเหล่านี้คิดอย่างไร เขาอาจจะติ เขาอาจ‌จะชม หรืออาจจะบอกว่าบ้า หรืออาจจะมีคำถาม‌มากมาย ซึ่งคำถามนี่แหละครับที่เป็นเรื่องสำคัญ ‌เพราะจะทำให้เราได้รู้ก่อนว่า ผู้คนจะสงสัยอะไร‌กับเรื่องนี้บ้าง และหาทางแก้ปัญหาหรือหาคำตอบ‌ต่างๆ เพื่อคลายความสงสัย

และทำไมเราจะต้องปรึกษาคนที่เราสนิทก่อน ‌นั่นก็เพราะว่าหากแนวคิดของเราไปได้ด้วยดีและ‌หาทางแก้จุดอ่อนต่างๆ ได้หมดจนเกิดเป็นธุรกิจ‌แล้ว ก็จะเป็นทางเดินที่ถือว่าราบรื่น แต่หากเราไป‌ปรึกษาคนอื่น คนไม่สนิท คนที่เราไว้ใจไม่ได้ หากเขาได้ยินไอเดียดีๆ แทนที่เขาจะให้คำปรึกษา ‌เขาอาจจะนั่งตำหนิจนเราท้อใจ และคิดว่ามันเป็น‌ไปไม่ได้ แต่ลงท้ายแล้วเขาเอาไอเดียของเราไปดัดแปลง แล้วแอบทำเสียเอง

การอวดดีของเราเลยจะกลายเป็นผลงานและ‌กลายเป็นธุรกิจของคนอื่นไปอย่างน่าเสียดาย

ดังนั้น อย่ามัวเขิน อย่ามัวอายที่จะอวดดี แต่‌ต้องอวดดีกับคนที่เหมาะสมก่อน เพื่อปรับกลยุทธ์ ‌ปรับแก้จุดอ่อนเสียให้เรียบร้อย ก่อนที่จะป่าว‌ประกาศการอวดดีของเราออกสู่สาธารณชน

คำว่าอวดดีอีกนัยหนึ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี‌เจอกันมาก คือ กรณีกิจการที่ทำอยู่นานแล้ว และ‌มีลูกหลานของเจ้าของกิจการที่อาจจะเพิ่งเรียนจบ ‌หรือเพิ่งกลับจากต่างประเทศเข้ามาเป็นผู้บริหาร‌รุ่นใหม่ พร้อมกับความรู้เต็มสมอง และความ|ทะนงตน ความอวดดีที่มากเกินไป

ความอวดดีแบบนี้เป็นปัญหาครับ และมีให้‌เห็นเยอะแล้วว่า ผู้บริหารรุ่นที่สอง ที่สาม มักจะมี‌ปัญหากับผู้บริหาร หรือลูกจ้างรุ่นเก่าๆ เพราะคน‌รุ่นใหม่นั้นไฟแรง พอได้เข้ามาทำงานก็อยากปรับ‌เปลี่ยนให้เกิดความทันสมัยหรือไฮเทค โดยไม่ทัน‌มองว่าคนที่ทำกันมานานและประสบความสำเร็จ‌มานานนั้น เขาคิดอะไร กลายเป็นการแสดงความ‌อวดดีแบบไม่เข้าท่า และอาจจะนำไปสู่ความผิดใจ‌กัน ทั้งที่การอวดดีนั้นอาจจะมีดีจริงๆ ซ่อนอยู่ก็ได้ ‌แต่ผู้ใหญ่มองไม่เห็น เนื่องจากมีช่องว่างระหว่าง‌วัย หรือช่องว่างทางความคิดอื่นๆ มาบดบังอยู่

การอวดดีในกรณีนี้จะต้องเป็นการอวดดีแบบ‌ค่อยเป็นค่อยไป และถ้าจะให้ดี เจ้าของรุ่นเก่าๆ ‌ควรจะพิจารณาให้ดี เวลาเอาลูกหลานเข้ามา‌ทำงาน อย่าเพิ่งให้นั่งตำแหน่งใหญ่โดยทันที แต่จะ‌ต้องส่งไปทำงานเป็นลูกน้องคนอื่นในแผนกต่างๆ ‌เพื่อให้ได้เกิดการเรียนรู้งาน และเกิดการยอมรับ‌จากผู้อาวุโสต่างๆ ก่อน

การได้เรียนรู้สักระยะ บวกกับความรู้ ความ‌สามารถของคนรุ่นใหม่ จะทำให้เกิดการอวดดีได้‌อย่างเหมาะสม อวดดีได้โดยไม่เคืองใจคนเก่าแก่ ‌และที่สำคัญ เกิดการอวดดีที่ผ่านการกลั่นกรองมา‌แล้วว่าเหมาะสมกับธุรกิจที่เขาได้โอกาสคลุกคลี ‌และรู้เงื่อนไขต่างๆ ในการทำการค้าอย่างครบถ้วน‌แล้ว ไม่ใช่อวดดีตั้งแต่ต้น และทำให้ผิดพลาด

สรุปแล้ว การอวดดีไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะครับ ‌เพียงแต่ว่าจะต้องมีดีมาอวดจริงๆ ไม่ใช่อวดดีแต่ท่าทาง ในขณะที่ข้างในกลวง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็‌เป็นการอวดดีที่มีปัญหา และไม่มีใครเอาด้วยครับ

ข่าวล่าสุด

Sponge City Tourism เมื่อเมืองเลิกสู้กับน้ำ แล้วหันมา “อยู่ร่วมกับมัน”