จับตา คลังถกนัดแรกสัปดาห์นี้ หาต้นตอเงินไหลเข้า เคลียร์ปมเงินเทา-บาทแข็ง
ลวรณ เผย ประชุมนัดแรกสัปดาห์นี้ เร่งหาคำตอบเงินไหลทะลักเข้าไทย โยงเงินเทาหรือไม่ หวังคลายข้อกังขา-ลดแรงกดดันบาทแข็ง
KEY
POINTS
- กระทรวงการคลังเตรียมประชุมนัดแรกในสัปดาห์นี้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธปท. ปปง. และ ก.ล.ต. เพื่อหาแนวทางตรวจสอบเงินทุนไหลเข้าประเทศที่ผิดปกติ
- การตรวจสอบมีเป้าหมายเพื่อหาต้นตอของเงินทุนดังกล่าว และไขข้อสงสัยของสังคมว่าเป็นเงินสีเทาหรือไม่
- การดำเนินการนี้คาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่า และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางการเงิน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามการเชื่อมโยงข้อมูลเงินทุนที่ไหลเข้ามาจำนวนมาก และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับเงินสีเทาหรือไม่ ว่า ภายในสัปดาห์นี้คณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะมีการประชุมนัดแรก เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ที่่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มีการพูดคุย หรือหารือกันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่การประชุมครั้งนี้จะมีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะมีการวางแนวทางการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยยืนยันว่าประเด็นนี้ได้รับความสนใจ และเป็นข้อสงสัย คลางแคลงใจของสังคมอย่างมาก ดังนั้นคณะทำงานจะต้องดำเนินการเพื่อหาข้อสรุปโดยเร็วและดีที่สุด
“วันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเงินที่เข้ามาตรงนี้คืออะไร ดังนั้นก็ต้องไปหากระบวนการเพื่อให้รู้ก่อนว่าเงินตรงนี้คืออะไร เพื่อที่จะได้วางแนวทางในการแก้ปัญหากันต่อไป ผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนของเงินเข้าและออกจะได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการว่ามีเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง ผมว่าต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เจอกันก่อน เพื่อจะได้หาวิธีการในการรู้ว่าเงินตรงนี้ คืออะไร” นายลวรณ กล่าว
อย่างไรก็ดี เชื่อว่า หากมีข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเงินทุนที่ไหลเข้ามานี้ ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยลดแรงกดดันเกี่ยวกับเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ได้บ้าง ส่วนหนึ่งจะทำให้สังคมหายคลางแคลงใจ สบายใจว่ามีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่าเงินทุนที่ไหลเข้ามานี้เป็นเงินสีดำ สีขาว หรือสีเทาอย่างไร ยืนยันว่าต้องรู้ตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน และมั่นใจว่าน่าจะหาต้นตอ หรือแหล่งที่มาของเงินนี้เจอแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นของใครสักคน
ทั้งนี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลังตั้งทีมเร่งตราวสอบ เส้นทางของเงินทนไหลเข้าไทยที่มีลักษณะผิดปกติ และอาจเชื่อมโยงกับเงินสีเทา โดยเป็นการดำเนินการดามนโยบาย ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ "Connect the Dots" หรือการเชื่อมโยงระบบความปลอดภัยทางการเงิน โดยเฉพาะประเด็นค่าเงินบาทแข็งค่า และกลไกการไหลของเงินผ่านตลาดเงิน ตลาดทม และกิจกรรมจริง (Physical fows) ซึ่งต้องประสานหน่วยงานหลัก อย่าง ธปท., ปปง, ก.ล.ต. เข้าร่วมวิเคราะห์
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ความคลาดเคลื่อนสุทธิในดุลการชำระเงิน Net Errors and Omissions (NEO) ของไทยพุ่งผิด โดยปี 2566 อยู่ที่ 180,404 ล้านบาท และปี 2567 พุ่งทะล 530,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนไตรมาสแรกของปี 2568 มีจำนวน NEO ที่ 80,909 ล้านบาท ซึ่งหากแนวโน้มยังดำเนินการต่อทั้งปี ตัวเลขอาจแตะดับกว่า 3.2 แสนล้านบาท สะท้อนถึงธุรกรรมที่ยังไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน


