คลัง แจงสูตรใหม่ "คนละครึ่ง" คนยื่นภาษี 11 ล้านคน ได้สิทธิรัฐอุดหนุน 60%
ปลัดคลัง เผยโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ใช้สูตร 60:40 สำหรับผู้ยื่นภาษี 11 ล้านคน ขณะประชาชนทั่วไปยังได้ 50:50 คาดเริ่ม ต.ค.นี้ งบ 2.5 หมื่นล้าน
KEY
POINTS
- กระทรวงการคลังเตรียมปรับเกณฑ์โครงการ "คนละครึ่ง" เฟสใหม่ เพื่อให้สิทธิพิเศษแก่กลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบภาษี
- ผู้ที่ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิ์ในสูตรใหม่ โดยรัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่าย 40%
- สำหรับประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงได้รับสิทธิ์ในสัดส่วนเดิมคือ 50:50
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่ง” เฟสใหม่ภายใต้นโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยมีแผนปรับเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างแรงจูงใจใหม่ให้กับประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบภาษี สำหรับรูปแบบใหม่ของโครงการ จะใช้ สูตรอัตราส่วน 60:40 โดยรัฐร่วมจ่าย 60% และประชาชนจ่าย 40% สำหรับกลุ่มที่มีรายได้และยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 11 ล้านคน โดยถือเป็นกลุ่มที่แสดงความรับผิดชอบผ่านการเข้าสู่ระบบภาษี
“แนวคิดคือให้สิทธิพิเศษกับคนที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งน่าจะประมาณ 11 ล้านคน ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่จ่ายภาษีจริง แต่รวมถึงผู้ยื่นแบบด้วย” นายลวรณกล่าว
ขณะที่ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังคงได้รับสิทธิแบบเดิมคือ อัตราส่วน 50:50 รัฐช่วยจ่าย 50% และประชาชนจ่าย 50% โดยคาดว่า หลักเกณฑ์ต่างๆ จะยังคงคล้ายกับโครงการเดิมประมาณ 80-90% เพื่อให้ประชาชนรู้สึกคุ้นเคยและเข้าถึงสิทธิได้อย่างทั่วถึง
“หลักการสูตรนี้น่าจะคล้ายของเดิมสุด 80-90% เพื่อให้ประชาชนเข้าใจง่าย เพราะคนคุ้นเคยกับคนละครึ่ง เราอาจมีการปรับปรุง เติมรายละเอียดใหม่ๆ เข้าไปให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น รูปแบบ 60:40 สำหรับกลุ่มผู้เสียภาษี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบนโยบาย”
สำหรับ ในด้านงบประมาณ หากโครงการสามารถเริ่มต้นได้ภายในเดือนตุลาคม 2568 จะใช้เงินจากงบปี 2569 ภายใต้กรอบงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 25,000 ล้านบาท หากมีความจำเป็นต้องขยายโครงการออกไปมากกว่าที่วางแผนไว้ อาจต้องพิจารณาเกลี่ยงบจากรายการงบกลางอื่นๆ มาสมทบเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ต้องรอหารือกับ คณะรัฐมนตรี(ครม.) อีกครั้งว่างบประมาณที่มีควรจัดสรรให้กับเรื่องใดเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนโครงการนี้ต้องใช้งบประมาณเท่าไร และขนาดโครงการแค่ไหน แม้โครงการมีผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาอีกครั้ง


