คลัง จ่อออกมาตรการรับมือความเสี่ยงเศรษฐกิจ-การเมือง
คลังเตรียมออกมาตรการเสริมรองรับผลกระทบเศรษฐกิจและความผันผวนทางการเมือง หากความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านและสถานการณ์การเมืองในประเทศรุนแรงกว่าคาด
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ความไม่แน่นอน ทั้งจากสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา และภาวะการเมืองภายในประเทศที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่น กระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งเตรียมหามาตรการรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อรับมือความเสี่ยงหากสถานการณ์รุนแรงเกินกว่าประเมินไว้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ สศค.หามาตรการเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมรองรับกับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้าที่มากกว่าที่ประเมินไว้ แต่ทั้งนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องขอดูในรายละเอียดก่อน
ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 115,700 ล้านบาท ได้อนุมัติงบก้อนแรก 115,700 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนการจ้างงานได้ราว 6-7 ล้านคน
เมื่อนำงบก้อนนี้ไปคำนวณจากรายจ่ายลงทุน คาดว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว 30,000 ล้านบาท หรือประมาณ 30% ของวงเงินทั้งหมด ซึ่งจะกระจายไปยังภาคการผลิต ผ่านกลไกการจ้างงานและการลงทุน
นอกจากนี้ สศค.ประเมินว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้ได้ประมาณ 0.4-0.5% ต่อ GDP ในช่วงที่เหลือของปี โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒน์ ผ่านโมเดล input-output ที่แสดงผลกระทบแบบส่งต่อและย้อนกลับในภาคเศรษฐกิจ
สำหรับงบประมาณปี 2569 นายพรชัยยืนยันว่า ยังเดินหน้าเป็นไปตามขั้นตอนในชั้นคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร และยังไม่มีผลกระทบจากภาวะการเมืองในขณะนี้