posttoday

บอร์ดกสทช.ถกคุณสมบัติค่ายมือถือเข้ม พบ 1 ราย ส่อหลุดประมูล

12 มิถุนายน 2568

ประมูลมือถือส่อสะดุด บอร์ดถกเดือด หลังพบ 1 ราย เคยถูกฟ้อง อาจขาดคุณสมบัติ เร่งส่งเรื่องอนุกรรมการกฎหมาย ตีความ ก่อนประชุมใหม่ 13 มิ.ย.นี้

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.วันนี้ (12 มิ.ย.2568) ที่ประชุมมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นซองประมูลคลื่นความถี่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย. 2568 ซึ่งบริษัทลูกของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นความประสงค์ในการประมูลครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมพบว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถลงมติเกี่ยวกับคุณสมบัติของเอกชนทั้ง 2 รายได้ เนื่องจาก สำนักงาน กสทช. มีการแนบเอกสาร และรายงานต่อที่ประชุมว่า มีบริษัทหนึ่งยังไม่ผ่านคุณสมบัติในการประมูล หรือไม่  เพราะมี 1 ในข้อคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลต้องไม่ถูกดำเนินคดีและยึดทรัพย์

ทว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวเคยถูกศาลพิจาณาความผิดถูกปรับเงิน 200,000 บาท จำนวน 1 คดี แต่ไม่ได้ปรากฎเอกสารชัดเจนว่าถูกยึดทรัพย์หรือไม่ ที่ประชุมจึงขอให้อนุกรรมการกฎหมายนำเรื่องนี้ไปพิจารณาอย่างเร่งด่วนว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติหรือไม่ เพื่อนำกลับมาประชุมบอร์ดกสทช.อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.2568)

หากมีหนึ่งในผู้ขอเข้าร่วมประมูลไม่มีคุณสมบัติ จะทำให้มีผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว ซึ่งทางสำนักงาน กสทช. ยืนยันว่า มีเพียงรายเดียวก็สามารถจัดการประมูลได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจทำให้กรรมการหลายท่านไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการดึงดันประมูล เพราะตอนนี้ ศาลปกครองก็ได้รับคำร้องของสภาผู้บริโภคในการยื่นฟ้อง ขอให้ศาลเพิกถอน ประกาศ กสทช. เรื่องการประมูลครั้งนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ให้ทาง กสทช. เข้าไปชี้แจงการดำเนินการประมูลอยู่ 

อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณา วาระต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการปรับปรุงมาตรการเฉพาะกรณีควบรวมกิจการทรู-ดีแทค ประธานกสทช.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ มีการหยิบยกวารเร่งด่วนคือ การ "คัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ กสทช." ในที่นี้ คือ นางสาวพิรงรอง รามสูต ซึ่งมีการยื่นทักท้วงมาจากตัวแทนภาคเอกชน

สืบเนื่องจากมีข้อพิพาทระหว่าง บริษัท ทรูดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม TrueID ที่ยื่นฟ้องต่อ นางสาวพิรงรอง ในข้อหาใช้อำนาจมิชอบ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ตัดสินให้ นางสาวพิรงรอง มีความผิดจริง เรื่องอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ ด้วยมีความขัดแย้งกันมาก่อนจึงไม่ควรให้พิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับคู่กรณี ทำให้มีการพยายามกีดกัน นางสาวพิรงรองออกจากการประชุมในวาระสำคัญดังกล่าว 

ทั้งนี้ ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นข้อพิพาทระหว่าง "ทรู ดิจิทัล" และ นางสาวพิรงรอง ไม่ใช่ กับ "ทรูมูฟเอช" หรือ "ทรู คอรปอเรชัน" ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นผู้ควบรวมกิจการกับดีแทค ดังนั้นทำให้ภายในบอร์ด กสทช. มีการถกเถียงอย่างดุเดือดยาวนานเกือบครึ่งวัน 

ผลสรุป คือ บอร์ด ให้สำนักงาน กสทช. ไปแยกประเด็นการพิจารณาว่า เป็นประเด็นของบริษัทใด มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพความขัดแย้งของ นางสาวพิรงรอง โดยตรงหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เป็นกรณีความผิดร้ายแรงหรือไม่ แล้วจึงนำเข้ามาให้พิจารณา ดังนั้นการปรับปรุงมาตรการเฉพาะหลังควบรวม "ทรู-ดีแทค" จึงยังไม่มีการพิจารณาเกิดขึ้น 

เรื่องดังกล่าว ทำให้การประชุมบอร์ดกสทช.มีความล่าช้าออกไปกว่า 1 ชั่วโมง เพราะประธานกสทช.ต้องการให้พิจารณาว่า นางสาวพิรงรอง ควรออกจากห้องประชุมหรือไม่ ทำให้วาระการประชุมค้างอยู่มากกว่า 48 วาระ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.00 น.ในวันเดียวกัน ผลการประชุมของอนุกรรมการกฎหมาย ลงมติแล้วให้ค่ายมือถือดังกล่าวผ่านคุณสมบัติ เรียบร้อย เตรียมนำเสนอเข้าบอร์ดในวันที่ 13 มิ.ย.2568 ตอไป

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1