ธปท. สั่ง เช่าซื้อ-ลีสซิ่งรถ รายงานตัวก่อนกฎหมายใหม่ มีผล 2 ธ.ค.68
ธปท. สั่ง “ธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่งรถ” รายงานตัว หลังราชกิจจาฯ ประกาศ พ.ร.ฎ.เช่าซื้อลีสซิ่งฯ อยู่ภายใต้บังคับ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 ธ.ค.68
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา กำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสชิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ.2568 โดยมีรายลเอียดดังนี้
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เป็นกิจการที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา ขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ.. 2568”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. ..... เพื่อให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าวให้ประกอบธุรกิจอย่างเหมาะสม เอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน รวมทั้งคุ้มครองดูแลผู้บริโภคให้ได้รับการบริการทางการเงินอย่างเป็นธรรม
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับประชาชน โดยปริมาณธุรกรรมมีค่อนข้างสูง
ล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 ยอดธุรกรรมคงค้างอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งมีนัยต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและกระทบประชาชนในวงกว้าง และประมาณ 1 ใน 3 ของยอดธุรกรรมคงค้างดังกล่าว เป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะ
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2568 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
โดยกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดให้ ธปท. เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นทางค้าปกติที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่เป็นธรรมและรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน
ในระหว่างนี้ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจเตรียมความพร้อมในการรายงานตัวกับ ธปท. เพื่อรองรับการกำกับดูแลและถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. ในระยะข้างหน้า โดย ธปท. จะแจ้งวันและระยะเวลาในการรายงานตัวให้ทราบต่อไป ผู้ประกอบธุรกิจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ ธปท. ที่ https://www.bot.or.th/th/our-roles/financial-institutions/hire-purchase-leasing.html หรือสอบถามได้ทาง e-mail : [email protected] หรือ โทร. 1213


