คลัง กู้เซ็น ADB 2.4 พันล้าน ลุยทางยกระดับเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา
คลัง จรดปากกาเซ็นกู้เงิน ADB วงเงินกว่า 2,440 ล้าน อายุกู้ 12 ปี สร้างทางยกระดับเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ลดระยะทางเดินทางลงกว่าเดิม หนุนโครงสร้างพื้นฐานใน EEC
เมื่อวันนี้ 6 มิ.ย.68 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ Mr. Anouj Mehta ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย (ADB Country Director, Thailand Resident Mission) ได้ร่วมลงนามในสัญญาเงินกู้ สำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (Climate – Resilient Connectivity for the Eastern Economic Corridor Project: the Intercity Motorway No. 7 Extension to Link with U – Tapao International Airport) (โครงการฯ) วงเงิน 68.74 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,440.19 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยเงินกู้จาก ADB ไม่ได้เพียงแค่เสริมงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ แต่ยังมาพร้อม ความรู้และเทคนิค ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่ง ADB มีความเชี่ยวชาญ
แม้ประเทศไทยมีสภาพคล่องสูง แต่การเลือก ADB เป็นแหล่งเงินกู้ก็เพื่อเข้าถึงเครื่องมือช่วยเหลือด้านเทคนิค การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่จะพัฒนาไปพร้อมกัน
โครงการนี้ใช้งบประมาณผสม โดยเงินกู้จาก ADB คิดเป็นครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งกรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการหลัก คาดว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวในอนาคตหลายสิบล้านคนต่อปี
ความร่วมมือในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง ดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อสร้างทางยกระดับแนวใหม่ขนาด 4 ช่องจราจร และขยายช่องทางจราจรเพิ่มเติมในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะช่วยลดระยะทางจากการเดินทางโดยทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา – มาบตาพุด สู่สนามบินอู่ตะเภา จากเดิม 5 กิโลเมตร เหลือเพียง 1.92 กิโลเมตร รวมถึงปรับปรุงการเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดหาเงินกู้จากต่างประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการทาบทามและเจรจาเงินกู้กับ ADB และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติอนุมัติเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 68.74 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,440.19 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (SOFR + Spread + Surcharge/Rebate) อายุเงินกู้ 12 ปี รวมระยะเวลาปลอดการชำระหนี้เงินต้น (Grace Period) 4 ปี และระยะเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายเงินกู้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2572
การกู้เงินเพื่อสนับสนุนในโครงการลงทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศในหลายมิติ เช่น การลดระยะทางในการเดินทางสู่สนามบินอู่ตะเภา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดปัญหาการจราจรแออัดบริเวณโดยรอบสนามบิน และสนับสนุนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศไทย ตลอดจนเสริมสร้างระบบคมนาคมขนส่งแบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกับภาคตะวันออก ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและส่งเสริมการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (The Eastern Economic Corridor: EEC) ให้เป็นเมืองธุรกิจและศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศไทยในอนาคต เป็นต้น


