Entertainment Complex จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย สู่เวทีโลก Soft Power
หากฟังจากฝั่งรัฐบาล โครงการ Entertainment Complex ไม่ใช่แค่เพียงแนวคิดเรื่องรีสอร์ทครบวงจรแบบมีคาสิโน หากเป็นเวทีโชว์ Soft Power, วัฒนธรรมไทย, เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงระดับโลกไว้ในที่เดียว!
“Entertainment Complex ไม่ใช่เรื่องของการพนัน แต่คือศูนย์กลางการสร้างประสบการณ์ระดับโลก ที่หลอมรวมเอกลักษณ์ไทยเข้ากับความบันเทิง ความคิดสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจแห่งอนาคต” - นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง
จุดเริ่มต้นเปิดเวทีแห่งการเปลี่ยนแปลง
ในงานแถลงรายละเอียดของโครงการ “THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX” มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
แนวคิด Entertainment Complex ในไทยเกิดขึ้นท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนไป พร้อมการตื่นตัวด้าน Soft Power ของไทยที่กำลังเติบโตจากกระแสอาหารไทย มวยไทย นวดไทย แฟชั่น ศิลปะ ไปจนถึงแอนิเมชันและศิลปินไทยในเวทีโลก ซึ่งรัฐมองเห็นโอกาสในการขับเคลื่อนเหล่านี้สู่รูปธรรมทางเศรษฐกิจ
การจัดตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทาง Entertainment Complex โดยสภาผู้แทนราษฎรในปี 2566 กลายเป็นหมุดหมายสำคัญ ก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มผลักดันแนวคิดให้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศในปี 2568 ภายใต้การขับเคลื่อนเชิงนโยบายโดยกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒน์ฯ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
“นี่คือการวางรากฐานใหม่ให้เศรษฐกิจไทย จากฐานรายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวเชิงปริมาณ ไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การบริโภคในประเทศ และการลงทุนใน Soft Power ที่มีศักยภาพต่อยอดระดับโลกได้” - จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
อะไรคือ Entertainment Complex ในเวอร์ชันไทย?
Entertainment Complex ของไทยไม่ได้จำกัดอยู่แค่คาสิโนหรือแหล่งบันเทิงอย่างในลาสเวกัส แต่จะเน้นการออกแบบที่ตอบโจทย์ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้:
- พิพิธภัณฑ์และศูนย์เรียนรู้ Soft Power ไทย เช่น อาหารไทย มวยไทย ศิลปะร่วมสมัย
- สวนสนุกและธีมปาร์คที่ใช้วัฒนธรรมไทยเป็นแรงบันดาลใจ เช่น ตำนานรามเกียรติ์ในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ
- ศูนย์ประชุมระดับโลก (MICE) รองรับทั้งเทคโนโลยี งานอีเวนต์ คอนเสิร์ตระดับสากล
- ตลาด OTOP และงานหัตถกรรม ที่ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม
- Wellness Hub และศูนย์ดูแลสุขภาพไทย ด้วยแพทย์แผนไทยและสปาระดับโลก
- การใช้เทคโนโลยี Immersive Experience, AR/VR, AI ในการเล่าเรื่อง Soft Power ไทย
โมเดลเปรียบเทียบ เรียนรู้จากเวทีโลก
รัฐบาลไทยได้ศึกษาโมเดลของหลายประเทศ เช่น
- สิงคโปร์ – Marina Bay Sands: ไม่ใช่แค่คาสิโน แต่คือศูนย์กลางของ MICE, แฟชั่น, และศิลปะร่วมสมัย
- ญี่ปุ่น – Osaka IR: เน้นการออกแบบร่วมกับท้องถิ่นและใช้เนื้อหาเฉพาะถิ่น
- ดูไบ – Dubai Expo / Global Village: ผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำ
- ลาสเวกัส: เน้นประสบการณ์ ความบันเทิง ศิลปิน และเศรษฐกิจหมุนเวียน 24 ชั่วโมง
ไทยจะไม่ลอกแบบเหล่านี้ แต่จะสร้างโมเดลเฉพาะตัวที่ดึงเสน่ห์ไทยมานำเสนออย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
เป้าหมายทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลตั้งเป้าว่า Entertainment Complex จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า 2-3 แสนล้านบาทต่อปีในระยะยาว และสามารถ:
- ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง
- กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
- ขยายโอกาสให้ธุรกิจรายย่อย
- สร้างอาชีพที่หลากหลาย เช่น งานสร้างสรรค์ งานออกแบบ เทคโนโลยี
- เป็นฐานส่งออก Soft Power ไทยในรูปแบบเศรษฐกิจ
“ประเทศไทยมีทรัพยากร Soft Power ที่ดีที่สุดในโลก — Entertainment Complex จะเป็นแพลตฟอร์มในการเปลี่ยนเสน่ห์เหล่านี้ให้กลายเป็นรายได้และคุณค่าอย่างยั่งยืน” - จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
ความท้าทาย และการมีส่วนร่วมของประชาชน
แน่นอนว่าโครงการลักษณะนี้ย่อมมีทั้งแรงสนับสนุนและเสียงทัดทาน โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับคาสิโนและผลกระทบทางสังคม รัฐบาลจึงวางหลัก “การมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน” ไว้เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบโครงการ ทั้งในรูปแบบการทำประชาพิจารณ์ เวทีรับฟังความคิดเห็น และการออกแบบกลไกควบคุมเชิงนโยบาย เช่น เขตควบคุมพิเศษ ระบบภาษี ระบบเครดิต หรือระบบแยกพื้นที่เฉพาะกิจ (Zoning)
“ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนจากผู้บริโภควัฒนธรรม ไปเป็นผู้สร้างและส่งออกประสบการณ์ แต่การทำให้สำเร็จต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
— ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ


