บีโอไอเดินหน้าโรดโชว์ครึ่งปีหลัง 68 บุกสหรัฐฯ ญี่ปุ่น
บีโอไอ กางแผนโรดโชว์ต่างประเทศ ดึงดูดการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 68 พร้อมเดินทางสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เจาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง ดิจิทัล เซมิคอนดักเตอร์
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 นี้ บีโอไอ เตรียมแผนเดินทางโรดโชว์ต่างประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศ โดยเน้นไปที่อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
สำหรับการเดินทางโรดโชว์ในช่วงครึ่งปีหลัง ที่ญี่ปุ่น จะเดินทางในเดือนสิงหาคม 2568 เพื่อพบปะนักลงทุนของญี่ปุ่น ส่วนการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา จะไปในเดือนกันยายน 2568 โดยเน้นการดึงดูดการลงทุนในกลุ่มของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และดิจิทัล
การเดินทางไปสหรัฐฯ ช่วงเดือนกันยายนนั้น จะได้หารือกับนักลงทุนต่อเนื่อง หลังจากในช่วงหลังสงกรานต์ทีนี้ได้ไปพบกับนักลงทุนรายใหญ่ และสมาคมธุรกิจชั้นนำ โดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทุกคนพูดตรงกันซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ยาว ไม่มีทางที่จะลดลงได้ และสหรัฐฯก็ยังต้องการพึ่งพาซัพพลายเชนนอกสหรัฐฯ และอาเซียนก็เป็นพื้นที่สำคัญ ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงที่จะรองรับการลงทุนด้านนี้
นายนฤตม์ กล่าวว่า ในการผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นั้น เชื่อว่า ประเทศไทยพร้อมรองรับารลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว และยังมีบทบาทมากกว่าปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเป็นซัพพลายเชนที่สำคัญของนักลงทุนจากสหรัฐฯ ได้ และจะเป็นโอกาสในการกระตุ้นการลงทุนให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 มองว่า การลงทุนยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์โลกจะมีความไม่แน่นอนสูง เห็นได้จาก ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนเข้ามาแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท และจากการสถานการณ์การค้าและการลงทุนที่เปลี่ยนไป ยังส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างซัพพลายเชนของโลกครั้งใหญ่ และมโอกาสที่จะมีการลงทุนเคลื่อนย้ายมาในอาเซียนมากขึ้น
การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ น่าจะยังมีความต่อเนื่อง จากการปรับโครงสร้างซัพพลายเชนของโลก โดยเฉพาะการลงทุนสาขาหลัก ๆ เช่น ดิจิทัล ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์เซอร์วิส ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะก้าวสู่ยุคเอไอ รวมไปถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงแผงวงจร PCB ที่จะมีการตั้งฐานการผลิตใหม่ในไทยอย่างต่อเนื่องใน 2 ปีที่ผ่านมากว่า 2 แสนล้านบาท
ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาตลาดยานยนต์จะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แต่ในบางกลุ่มก็ยังขยายตัวได้ดี เช่น กลุ่มรถยนต์ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด ที่มียอดขายสูงขึ้น รวมทั้ง BEV ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งญี่ปุ่น และจีน ยังคงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันการลงทุนแบตเตอรีละชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย


