posttoday

"พชร นริพทะพันธุ์" ชี้ต้องบริหาร Entertainment Complex ให้เหมาะสม

15 พฤษภาคม 2568

"พชร นริพทะพันธุ์" อดีตที่ปรึกษาประจำประธานกสทช.ชี้นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล เป็นเดิมพันใหญ่ ดันไทยสู่ศูนย์กลางท่องเที่ยวและบริการ

"พชร นริพทะพันธุ์" ระบุว่า ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองและเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เดินหน้าเต็มสูบกับนโยบายการจัดตั้ง Entertainment Complex ที่รวมถึงการเปิดเสรีคาสิโนอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ทางเลือกใหม่” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาการท่องเที่ยว และสร้างรายได้จากภาษี

 

พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย: จากกับดักรายได้ปานกลางสู่จุดหมายระดับโลก

 

หนึ่งในเป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรม สู่ภาคบริการและการท่องเที่ยว โดยการเปิด Entertainment Complex 5 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังจ่ายสูง และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ที่ยังไม่สามารถหลุดพ้นจาก “กับดักรายได้ปานกลาง”

 

การลงทุนระดับหลายหมื่นล้านบาทในแต่ละแห่งจะนำไปสู่การสร้าง “เมืองท่องเที่ยวใหม่” ที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วน ตั้งแต่สนามบิน โรงพยาบาล ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นตัวเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

 

จัดระเบียบสิ่งผิดกฎหมาย: ปรับจากใต้ดินขึ้นบนดิน

 

แม้คาสิโนยังถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย แต่ข้อเท็จจริงคือ การพนันฝังรากลึกในสังคมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งระบบยุติธรรมในปัจจุบันไม่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การทำให้สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย จะช่วยฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของกฎหมายและระบบยุติธรรม แทนที่จะปล่อยให้เกิดการคอร์รัปชันใต้โต๊ะ ซึ่งบ่อนทำลายสังคมจากภายใน

 

เพิ่มรายได้รัฐ-จัดสวัสดิการได้ยั่งยืน

 

ในภาวะที่รัฐต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ และเผชิญกับอัตราการเกิดที่ต่ำ การเพิ่มรายได้จากภาษีคือทางรอดที่จำเป็น รายได้จากภาคการพนันที่อยู่ในระบบสามารถกลายเป็นงบประมาณสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศ ลดการพึ่งพาภาษีทางตรงจากประชาชน

พชร นริพทะพันธุ์

 

เสียงค้านและข้อกังวล: ควบคุมได้หรือไม่?

 

แม้แนวคิดจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อกังวลตามมา เช่น

                •              เยาวชนถูกมอมเมา: เสนอให้ใช้ระบบควบคุมดิจิทัล และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกัน

                •              ระบบตำรวจไร้ประสิทธิภาพ: ต้องยกระดับความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อปิดช่องว่างของการคอร์รัปชัน

                •              หลีกเลี่ยงภาษี: ต้องสร้างระบบที่ “ผลเสียจากการทำผิดมากกว่าผลได้” เพื่อจูงใจให้อยู่ในระบบ

 

บทเรียนจากกัญชาเสรี: ควรเร่งแต่ต้องไม่ลักลั่น

 

บทเรียนจากการผลักดันกัญชาโดยขาดกรอบควบคุมทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ย้อนแย้ง รัฐบาลจึงต้องระวังไม่ให้ Entertainment Complex กลายเป็น “นโยบายลักลั่น” ที่สร้างปัญหาใหม่แทนที่จะเป็นคำตอบ

 

ข้อเสนอทางการเมือง: สร้างการมีส่วนร่วมจริง ไม่ใช่แค่ประชาพิจารณ์

 

"พชร " เสนอให้มีการจัด Townhall กับประชาชน เพื่อเปิดเวทีรับฟังความเห็นโดยตรง แทนการประชาพิจารณ์แบบขาวดำ ทั้งยังเน้นว่า “การบริหารคือการนำ” ไม่ใช่การตาม หากหวังดึงศักยภาพประเทศออกมาให้ได้เต็มที่

 

 บทสรุป: เปิดโอกาสหรือเปิดช่อง?

 

แม้ Entertainment Complex จะเป็นหัวข้ออ่อนไหว แต่การปิดกั้นโดยอ้างศีลธรรมและความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง อาจเป็นการพลาดโอกาสในการพัฒนาประเทศอย่างถาวร สิ่งที่ต้องเร่งคือการออกแบบระบบควบคุมที่เข้มแข็ง ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงปัญหา

 

เพราะหากเราไม่กล้าก้าวข้ามจุดนี้ ประเทศไทยอาจยังคงติดอยู่ในวงจรเดิม โดยไม่มีวันที่จะเป็นผู้นำด้านบริการและการท่องเที่ยวในภูมิภาคได้เลย

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด พิธีปิดซีเกมส์ 2025 สุดยิ่งใหญ่ ส่งไม้ต่อ มาเลเซีย 2027