posttoday

ครม.เคาะกู้ ADB-AIIB กว่า 1.6 หมื่นล้าน หนุนโครงสร้างพื้นฐาน EEC

23 เมษายน 2568

ครม. อนุมัติกระทรวงการคลังกู้เงินกว่า 16,000 ล้านจาก ADB และ AIIB เพื่อพัฒนาโครงข่ายทางหลวง และสนามบินอู่ตะเภา หนุนการเติบโตเขต EEC

มื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) วงเงิน 68.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,440.19 ล้านบาท เพื่อใช้ใน “โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)” ซึ่งครอบคลุมการก่อสร้างทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ไปยังสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา


โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเพิ่มศักยภาพการขนส่งในภูมิภาค EEC เดิมมีกรอบวงเงินรวม 4,508 ล้านบาท แต่ภายหลังมีการปรับแบบ ลดวงเงินโครงการเหลือ 3,092.90 ล้านบาท โดยวงเงินกู้จาก ADB คิดเป็นประมาณ 78.90% ของวงเงินทั้งหมด ที่เหลืออีก 21.10% จะใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมทางหลวง


พร้อมกันนี้ ครม. ยังได้เห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ และการใช้อนุญาโตตุลาการตามข้อบังคับของ ADB ในกรณีเกิดข้อพิพาท พร้อมมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าว

ทั้งนี้ โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2572 โดย ADB อนุญาตให้เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้าได้ และจะเริ่มเบิกจ่ายทันทีเมื่อสัญญาเงินกู้มีผลบังคับใช้

 

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) วงเงิน 423.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13,891.75 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภา ภายใต้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก


โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้รับการอนุมัติในหลักการตั้งแต่ปี 2561 และ 2565 โดยให้กองทัพเรือ (ทร.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับผิดชอบในการดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชนในรูปแบบ PPP โดยมีกรอบวงเงินรวม 17,768 ล้านบาท โดยสัดส่วนเงินกู้จาก AIIB อยู่ที่ราว 85% และอีก 15% เป็นงบประมาณสมทบจากภาครัฐ


ครม. ได้เห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้ และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาล รวมถึงเห็นชอบให้ใช้อนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทตามเงื่อนไขของ AIIB

 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามสัญญาและข้อบังคับของ AIIB อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในกรณีมีการแก้ไขข้อตกลงการใช้พื้นที่ร่วม (Joint Use Agreement) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิในการเบิกจ่ายหรือการเรียกคืนเงินกู้ทันทีตามสัญญา
 

ข่าวล่าสุด

Samsung ผนึก Google Gemini เผยโฉมครัว AI สุดล้ำที่ CES 2026