posttoday

ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติโต ขยายสู่พื้นที่นอกกรุงเทพฯ-นักเรียนจีนเพิ่มขึ้น

28 กุมภาพันธ์ 2568

โรงเรียนนานาชาติมีแนวโน้มจะขยายตัวไปสู่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่จำกัดและการแข่งขันสูงในเมืองหลวง คาดว่า ปี 2568 จำนวนนักเรียนในไทยลดลง 1.1% แต่นักเรียนนานาชาติกลับเพิ่ม 8.3% โดยเฉพาะนักเรียนจีนที่ติดตามผู้ปกครองมาอยู่ในไทย

KEY

POINTS

  • โรงเรียนนานาชาติมีแนวโน้มจะขยายตัวไปสู่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่จำกัดและการแข่งขันสูงในเมืองหลวง 
  • ปี 2568 จำนวนนักเรียนในไทยลดลง 1.1% แต่นักเรียนนานาชาติกลับเพิ่ม 8.3% โดยเฉพาะนักเรียนจีนที่ติดตามผู้ปกครองมาอยู่ในไทย
  • เช่นเดียวกับ หลักสูตรไทยที่ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 


 

แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ โรงเรียนนานาชาติในไทย เริ่มเห็นชัดมาตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีก่อน จากสถานการณ์โรงเรียนเอกชนไทยทยอยปิดกิจการ จำนวนเด็กเกิดใหม่น้อยลง สวนทางกับโรงเรียนนานาชาติที่เปิดใหม่แทบทุก ๆ ปี 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ปี 2568 ภาพรวมจำนวนนักเรียนในไทยลดลง 1.1% แต่นักเรียนนานาชาติกลับเพิ่ม 8.3%

 

จำนวนนักเรียนไทยมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องตามสถิติการเกิด โดยการลดลงนี้มาจากจำนวนนักเรียนรัฐบาล และเอกชนหลักสูตรไทยที่ในปีนี้คาดว่าจะลดลง 1.1% และ 1.2% ตามลำดับ

 

ขณะที่รายได้ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติโต 9.7% ชะลอลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 13.1% เนื่องจากจำนวนนักเรียนนานาชาติในปีนี้มีทิศทางขยายตัวที่ชะลอลง เพราะมีเพียง 8 โรงเรียนใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ น้อยกว่าปีที่แล้ว 5 โรงเรียน 
 

ความนิยมหลักสูตรนานาชาติที่ทันสมัยยังคงหนุนการเติบโตของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในไทย โดยผู้ปกครองที่มีศักยภาพการลงทุนด้านการศึกษายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนจากการที่จำนวนคนไทยที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์คาดว่าจะเพิ่ม 24% ในปี 2566-2571 

 

แนวโน้มนักเรียนจีนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของนักเรียนต่างชาติเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะนักเรียนจีนที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยชาวจีนในตำแหน่งสูงที่มาทำงานในไทยยังเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20.8% ต่อปีตั้งแต่ปี 2564-2567 ซึ่งนักเรียนชาวจีนที่ติดตามผู้ปกครองมาอยู่ในไทยก็มักจะเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ

 

ทั้งนี้การที่รัฐบาลจีนมีนโยบายส่งเสริมการใช้ภาษาจีนกลาง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตรนานาชาติในจีนสูงขึ้น 

 

จากผลสำรวจ ปักกิ่ง เป็นเมืองที่มีค่าเรียนโรงเรียนนานาชาติสูงสุดในเอเชีย ส่งผลให้โรงเรียนนานาชาติในไทยนั้นเป็นที่สนใจสำหรับผู้ปกครองจีน 

 

โรงเรียนนานาชาติขยายตัวนอกกรุงเทพ

 

ขณะที่โรงเรียนนานาชาตินอกกรุงเทพฯ ยังคงมีแนวโน้มขยายตัว ระหว่างปี 2564-2568 จำนวนโรงเรียนนานาชาติในภูมิภาคนอกกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 9.1% ในขณะที่กรุงเทพฯ มีอัตราเฉลี่ยหดตัว 1.7 % ต่อปี

 

นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของนักเรียนนานาชาติในภูมิภาคอื่น ยังสูงกว่ากรุงเทพฯ ราว 3.7% 

 

การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่จำกัดทำให้โรงเรียนนานาชาติหันไปสำรวจตลาดใหม่ๆ ในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่, ระยอง, และภูเก็ต โดยเฉพาะในภาคกลางและตะวันออกที่มีครัวเรือนรายได้สูงรองจากกรุงเทพฯ

 

แต่เนื่องจากจำนวนครัวเรือนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในภูมิภาคเหล่านี้น้อยกว่ากรุงเทพฯ ผู้ประกอบการจึงอาจต้องปรับลดค่าเล่าเรียนให้ตรงกับรายได้ของผู้ปกครองในแต่ละพื้นที่ 
 

 

โรงเรียนกวดวิชารายได้เติบโต


ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชามีแนวโน้มเดียวกับโรงเรียนนานาชาติ พื้นที่นอกกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงกว่าในปี 2568 รายได้ของธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาคาดขยายตัว 9.2% แตะ 3.3 พันล้านบาท 

 

ธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาก็มีแนวโน้มขยายตัวนอกกรุงเทพฯ มากขึ้นเนื่องจากการแข่งขันที่สูง โดยระหว่างปี 2564-2568 รายได้ของธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาในกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.2% ต่อปี 

 

ในขณะที่ ภูมิภาคอื่นนั้นสูงถึง 23.8% โดยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาที่มาจากกรุงเทพฯ มีทิศทางลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ราว 83.2% ของรายได้ทั้งประเทศ สู่ระดับ 71.3% ในปีนี้ 


ทั้งนี้ ภาคกลางและตะวันออกก็เป็นตลาดศักยภาพถัดจากกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับโรงเรียนนานาชาติ โดยในปี 2567 ภูมิภาคดังกล่าวมีจำนวนโรงเรียนกวดวิชาที่จัดตั้งใหม่มากที่สุดกว่า 37% ของทั้งประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการที่มีจำนวนครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 100,000 บาท/เดือนรองจากกรุงเทพฯ 

 

ความเสี่ยงของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติและกวดวิชา

 

1.การเพิ่มขึ้นของค่าเล่าเรียนโรงเรียนนานาชาติ อาจทำให้ผู้ปกครองพิจารณาส่งบุตรหลานไปศึกษาในต่างประเทศแทน เนื่องจากช่องว่างระหว่างค่าเล่าเรียนเริ่มลดลง

 

ในปี 2567 ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของโรงเรียนประจำในนิวซีแลนด์สูงกว่าโรงเรียนนานาชาติในไทย 385,724 บาท แต่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมค่าอาหารและที่พักระหว่างปีการศึกษาแล้ว


2.โรงเรียนนานาชาติเผชิญความท้าทายจากโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยที่มีการเสนอหลักสูตรหลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ และจีน ซึ่งผู้ปกครองบางกลุ่มอาจพิจารณาเปลี่ยนไปหลักสูตรนี้เพื่อความคุ้มค่า

 

3.การพัฒนาทางเทคโนโลยีทำให้การเรียนโฮมสคูลง่ายขึ้น และเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเรียนโฮมสคูลต่ำกว่าการเรียนในโรงเรียนนานาชาติ จึงอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติได้

 

โดยค่าใช้จ่ายในการสอบ GED (เทียบวุฒิมัธยมปลายของสหรัฐฯ) รวมกับค่ากวดวิชาแบบเรียนตัวต่อตัว 100 ชั่วโมง จะอยู่ที่ประมาณ 160,800 บาท 

 

4.การเข้าถึงสื่อการเรียนรู้และแนวข้อสอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้นักเรียนอาจไม่จำเป็นต้องเข้ารับการเรียนเสริมที่โรงเรียนกวดวิชา
 

 

ที่มาข้อมูล : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”