โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ผ้าเช็ดตัว-ภาษาทั้ง4และนาดาล
กิจวัตรประจำแมตช์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสชายเดี่ยวมือ 2 ของโลก คงจะเป็นอย่างนี้หลังแข่งขันเสร็จสิ้น....
กิจวัตรประจำแมตช์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสชายเดี่ยวมือ 2 ของโลก คงจะเป็นอย่างนี้หลังแข่งขันเสร็จสิ้น....
โดย...ทีมข่าวกีฬา
กิจวัตรประจำแมตช์ของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสชายเดี่ยวมือ 2 ของโลก คงจะเป็นอย่างนี้หลังแข่งขันเสร็จสิ้นแต่ละแมตช์ เขาจะยัดผ้าเช็ดตัว 4 ผืนที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดเอาไว้ให้ ใส่กระเป๋าเดินออกจากสนามไป
จากนั้นสิ่งที่เขาจะทำต่อไปคือ
“แจกครับ เพราะว่าเพื่อนผมอยากได้กันทั้งนั้น ผมอาจจะเก็บไว้เองสักผืน” เฟเดอเรอร์กล่าวเขินๆ ขณะตอบคำถามของ จิม คูเรียร์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกเหมือนกันกับเขา ขณะให้สัมภาษณ์กับช่องอีเอสพีเอ็น 2
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในสนามแข่งขัน หน้าที่ต่อไปคือ นักเทนนิสจะต้องเดินตรงเข้าสู่ห้องสัมภาษณ์เผื่อเผชิญหน้ากับสื่อมวลชน บางราย (โดนเฉพาะสาวๆ) อาจจะขออาบน้ำล้างเหงื่อไคลก่อนมาให้สัมภาษณ์
ในรายการใหญ่อย่างออสเตรเลียน โอเพนนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่กองทัพนักข่าวจะมาจากหลายชาติ พูดหลายภาษา และก็เป็นธรรมดาอีกเช่นกันหากเฟเดอเรอร์จะโดนขอแยกสัมภาษณ์เดี่ยวกับสื่อสำนักแล้วสำนักเล่า ด้วยความที่เขาเป็นคนที่แสนจะเต็มใจให้สัมภาษณ์
เฟเดอเรอร์ ซึ่งมีคุณแม่เป็นชาวแอฟริกาใต้ เติบโตขึ้นมาโดยใช้ภาษาอังกฤษและสวิส-เยอรมันเป็นหลัก นอกจากนี้เขายังพูดภาษาเยอรมันและฝรั่งเศสได้อีกด้วย และนั่นทำให้เขาให้เวลากับการสัมภาษณ์สื่อในภาษาต่างๆ มากกว่า ไทเกอร์ วูดส์ หรือเดวิด เบคแฮม เสียอีก
“บางทีผมก็คิดว่าไม่น่าจะบอกใครต่อใครไปเลยว่าผมเรียนภาษาฝรั่งเศสไปด้วย” (หัวเราะ)
“ผมว่ามันดีนะครับที่จะได้มีเพื่อนๆ มากมายทั่วโลก ผมยังมีเรื่องตลกๆ ในหลายๆ ภาษานั้นอีกด้วย ซึ่งผมว่ามันสนุกดี การได้รู้จักตัวเองผ่านภาษาต่างๆ จริงๆ แล้วมันน่าสนใจทีเดียว”
เพื่อนๆ ส่วนหนึ่งของเฟเดอเรอร์คือหนุ่มที่ลุยทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ด้วยกันนั่นเอง
เฟเดอเรอร์เล่าว่า อังเดร อกัสซี, คาร์ลอส โมยา, ทิม เฮนแมน และพีต แซมพราส เฟรนด์ลีเอามากๆ (แม้แซมพราสจะเป็นคนไม่ค่อยพูดก็เหอะ)
“ผมคิดเสมอว่า จริงๆ แล้วการดีต่อรุ่นน้องเป็นสิ่งดีทีเดียว แทนที่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่านี่จะเป็นนรกสำหรับคุณ”
รวมถึงความสัมพันธ์อันแสนดีกับ ราฟาเอล นาดาล นักหวดรุ่นน้อง 5 ปีผู้ขึ้นครองแท่นมือ 1 ของโลกแทนที่ตัวเขาด้วย
เฟเดอเรอร์เล่าให้ฟังว่า เพียงครั้งแรกที่ได้แข่งกับนาดาล เขาก็รู้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นแชมเปียนในอนาคต หลายปีผ่านไปทั้งคู่กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของกันและกันมาตลอดหลายทัวร์นาเมนต์ และนั่นทำให้พวกเขาคุยกันมากขึ้น คุยกันเรื่องนู้นเรื่องนี้ (บางครั้งก็เรื่องเทนนิส) และยังควงกันไปไหนต่อไหนบ่อยขึ้นด้วย
“เทนนิสเป็นกีฬาโหดและสาหัสสากรรจ์ แต่สุดท้ายมันก็คือกีฬาชนิดหนึ่งก็เท่านั้น ชีวิตมีอะไรมากกว่านี้เยอะครับ”


