เปิดสถิติข้อมูลรั่ว 9 เดือน รัฐ-เอกชนโดนร้อง 342 ราย
หน่วยงานรัฐถูกร้องข้อมูลรั่วมากสุด 63 ราย รองลงมาด้านการเงิน 29 ราย ประกันชีวิตประกันภัย 23 ราย ย้ำองค์กรใดทำข้อมูลรั่วต้องแจ้ง PDPC ภายใน 72 ชั่วโมง
นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า ในรอบ 9 เดือน ของปี 2567 มีการร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทเอกชนต่าง ๆ หรือหน่วยงานภาครัฐที่นำข้อมูลไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง โดยมีจำนวน 342 ราย
แยกเป็นด้านการเงิน 29 ราย ด้านประกันชีวิตประกันภัย 23 ราย ด้านโทรคมนาคม 5 ราย ด้านการซื้อสินค้าออนไลน์ 4 ราย หน่วยงานรัฐ 63 ราย โดยร้องเรียนผ่าน 3 ช่องทาง มายังสำนักงานฯ ได้แก่ call center , เอกสาร และมายื่นเรื่องด้วยตัวเอง ทั้งนี้ สคส.ได้นำเสนอให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกฎหมายพิจารณาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จำนวน 273 ราย และยุติเรื่อง 38 ราย
ทาง สคส. ขอย้ำว่าการละเมิดดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อผู้เสียหายที่พยายามร้องขอความยุติธรรมเบื้องต้น แต่ในหลายกรณี บริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ ไม่ได้ตอบสนองหรือดำเนินการใดๆเพื่อแก้ไขปัญหาตามคำร้องขอของผู้เสียหาย ซึ่งกรณีเช่นนี้อาจจะโดนโทษปรับอย่างหนักตามที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ https://www.posttoday.com/business/712782
ล่าสุด บริษัทดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ชื่อดัง ได้ออกประกาศผ่านแจ้งเตือนลูกค้าผ่านทางเพจเฟซบุ๊กเรื่องมีการส่งข้อความในไลน์ และส่งลิงค์เพื่อรักษาและสถานะการใช้งาน โดยได้ขอให้ลูกค้าระมัดระวังในการคลิกลิงก์ดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่ามีการจัดเก็บด้วยมาตรการความปลอดภัยสูงสุด โดยข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลทั่วไป ไม่มีการเก็บข้อมูลด้านการเงินของลูกค้าแต่อย่างใด
สคส.ได้เร่งดำเนินการประสานงานกับผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและสาเหตุแห่งการละเมิด เพื่อป้องกัน แก้ไข ในทันที โดยให้บริษัทดังกล่าวประเมินความเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และรายงานชี้แจงเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตลอดจนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ต่อ สคส.ภายใน 72 ชม.พร้อมทั้งพิจารณาแจ้งเหตุละเมิดให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ทราบเพื่อระวังป้องกันโดยทันที
ทั้งนี้ สคส. จะได้เร่งรัดติดตามการรายงานดังกล่าวให้ครบถ้วนเพื่อป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของประชาชนที่อาจมีผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายและทบทวนมาตรการให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะได้ดำนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงกรณีหากพบการกระทำผิดเนื่องจาก การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม PDPA และขยายผลการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


