จับตา 6 เทรนด์เทคโนโลยีเอไอเปลี่ยนโลกอนาคต
"สุธีรพัน สักรวัตร" เอสซีบีเอ็กซ์เปิด 6 เทรนด์โลกใช้เทคโนโลยีเอไอในระบบปฏิบัติการ ตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต
คำกล่าวที่ว่า "AI สร้างโลก" ในปัจจุบันอาจจะยังดูเร็วไปมาก แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ในทีเดียวว่า"ไม่จริง" เนื่องด้วยโลกแห่งเทคโนโลยีไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้และเอไอก็อยู่ในชีวิตประจำวันมากกว่าที่คาดคิดไว้
"คุณตูน - สุธีรพัน สักรวัต" ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด Chief Marketing Officer กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ให้ความรู้เกี่ยวกับ McKinsey Technology Trends Outlook 2024 ในงานสัมมนายุทธศาสตร์องค์กร "โพสต์ทูเดย์" ว่า เทคโนโลยีเอไอไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่กลับอยู่ใกล้ตัวของเรามากกว่าที่คิด
และเทรนด์ของเทคโนโลยีนับจากนี้จะยิ่งฉายภาพชัดมากขึ้น เมื่อทั้งโลก โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนและปรับใช้เอไอในการบริหารงาน บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเบื้องต้นมี 15 เทรนด์ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก แต่วันนี้เลือกมา 6 เทรนด์สำคัญ โดยให้ความสำคัญในด้านของอัตราการเติบโต ถ้าตัวเลขยิ่งโตมากแสดงว่าตลาดมีความต้องการมาก หรือ ความต้องการในองค์กรมีค่อนข้างสูง มีรายละเอียดดังนี้คือ
1. เทรนด์ Generative AI มาแรง ตัวอย่างเช่น itau ทำหนังโฆษณาที่เฉลิมฉลองฟุตบอลผู้หญิงในบลาซิลโดยใช้ถาพเอไอทั้งหมด เป็นต้น
2. Applied AI อย่าง Aramco บริษัทยักษ์ใหญ่พลังงานนำเอไอมาใช้ในกระบวนการสำรวจตรวจสอบต่างๆ หรือ DigitaOwl นำข้อมูลเอไอมาวิเคราะห์อาการ ถือเป็นผู้ช่วยคุณหมอในอนาคต เป็นต้น
3. Digital trust and cybersecurity ปัจจุบันโลกกำลังถูกภัยคุกคามจากไซเบอร์ ดังนั้นในอนาคต cybersecurity จึงเป็นที่ต้องการ ดังตัวอย่าง salesforce นำเครื่องมือ Einstein มาใช้เพื่อป้องกันข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
4. Future of mobility นี่คือเทรนด์ที่เติบโตในอนาคต อย่างเช่น กูเกิลจับมือไป่ตูตั้งบริษัทย่อยชื่อ apollo ใช้ Waymo เพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคตที่คนคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีรถเป็นของตัวเอง และ เทรนด์รถไร้คนขับ ซึ่งในต่างประเทศเริ่มนำมาใช้บางส่วน เป็นต้น
5. นวัตกรรมพลังงานทดแทน ตัวอย่างเช่น AIRA นำเอไอมาใช้ในระบบพลังงานความร้อน เพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการเผาผลาญ เป็นต้น
และ 6. Climate Technologies beyond electrification and renewable ตัวอย่างเช่น Schneider Electric นำเทคโนโลยีมาช่วยลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้า ขณะที่ RUNNING TIDE ใช้เทคโนโลยีดึงเอาคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ เป็นต้น
โดยสรุปทั้ง 6 ข้อนี้คือสิ่งที่องค์กรระดับโลกต้องการ เป็นเทรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและมีเม็ดเงินมหาศาลในอนาคต
อย่างไรก็ดี ทาง SCBX นำ Generative AI มาใช้ในกลุ่มธุรกิจ ทั้ง การทำภาพในรายงานประจำปี รวมถึง การสร้างวิดีโอโดยใช้เอไอในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน หรือ การใช้เทคโนโลยีในการเซิร์จข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อเขียนบทวิเคราะห์
ขณะที่ในฝั่งของทีม HR ที่มีข้อมูลค่อนข้างเยอะ ได้นำเอไอมาใช้ในการคัดสรรบุคคลที่ตรงตามความต้องการ พร้อมกับใช้เอไอในการตั้งคำถามเฉพาะบุคคลนั้นๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ SCBX ยังพัฒนาโมเดลเอไอ นั่นก็คือ "TYPHOON (ไต้ฝุ่น)" โมเดลที่ใช้ภาษาไทยเหมือนใช้ ChatGPT ที่สามารถ "แปลได้ , สรุปได้ และ แนะนำได้" ถามว่า ทำไมต้องเป็นโมเดลภาษาไทยเพราะโมเดลภาษาต่างชาติไม่เข้าใจบริบทของภาษาไทยที่แท้จริง ภาษาอาจไม่สวยเท่า ดังนั้นนี่คือสิ่งที่เราทำเพื่อรองรับอนาคต


