สั่ง36รง.ส่งแผนลดสารพิษ
ขีดเส้นไม่เกิน4ก.พ.ต้องถึงมือกนอ. เตือนไม่ทำอาจถึงขั้นสั่งปิดโรงงาน
โพสต์ทูเดย์
— สั่ง 36 โรงงาน ทำแผนควบคุมมลพิษสารก่อมะเร็ง ส่ง กนอ.ไม่เกิน 4 ก.พ.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในมาบตาพุด 36 ราย ถึงแนวทางการลดสารอินทรีย์ระเหย 3 ชนิด คือ สารเบนซีน สาร 1,2ไดคลอโรอีเทน และสาร 1,3บิวทาไดอีน ได้ข้อสรุป ให้โรงงานทั้ง 36 แห่ง ซึ่งเป็นโรงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยสารดังกล่าว จัดทำแผนการลดสารอินทรีย์ระเหยของแต่ละโรงงานมาให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พิจารณาภายในวันที่ 4 ก.พ. 2554
แผนลดสารอินทรีย์ดังกล่าว ครอบคลุมการปล่อยทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การรั่วซึม การเผาไหม้ การขนส่ง ถังเก็บ ระบบบำบัดน้ำเสียและการปล่อยมลพิษทางปล่อง ซึ่งโรงงานแต่ละแห่งจะมีแผนลดที่แตกต่างกัน ช่วงแรกจะขอความร่วมมือก่อน แต่โดยภาพรวมภาคเอกชนเห็นด้วย และพร้อมให้ความร่วมมือ
ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้ กนอ.จัดกลุ่มโรงงานที่มีโอกาสปล่อยสารอินทรีย์ระเหยทั้ง 36 แห่ง ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ระดับมาก กลางและน้อย เพื่อเป็นข้อมูลในการกำกับดูแลโรงงานในมาบตาพุด เพราะต่อไปจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ภายในสัปดาห์นี้ กรมโรงงานอุตสาห กรรมจะเสนอร่างประกาศกระทรวงอุตสาห กรรมเรื่องแนวปฏิบัติเพื่อควบคุมสารอินทรีย์ระเหยให้ รมว.อุตสาหกรรมพิจารณาลงนาม และจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ถ้าโรงงานไม่ทำจะถูกสั่งหยุดดำเนินกิจการ หรือถอนใบอนุญาตประกอบการโรงงาน
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประชุมกังวลเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อลดการปล่อยสารดังกล่าว หากต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ หรืออุปกรณ์ จะเท่ากับเป็นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการที่ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ไปแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการต้องยื่นขออีไอเอใหม่อีกครั้ง จึงต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในด้านนี้ด้วย
รายชื่อโรงงานที่เข้าร่วมประชุม บริษัท ปตท.เคมิคอล บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น บริษัท พีทีที ฟีนอล บริษัท ระยอง เพียวรีไยเออร์ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ บริษัท กรุงเทพซินธิติกส์ บริษัท สยามเลเท็กซ์ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล


