posttoday

พิชัย จ่อคุยแบงก์ชาติ ปรับจูนความเห็นต่าง มั่นใจผ่านไปได้ด้วยดี

07 พฤษภาคม 2567

พิชัย รมว.คลัง เผยเตรียมหารือผู้ว่าแบงก์ชาติ หาจุดร่วม ลดความเห็นต่างเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เชื่อมั่นทุกฝ่ายต้องการเห็นประเทศเจริญ ชี้ถึงความเป็นอิสระธนาคารกลางต้องตอบสนองประชาชนได้ ยันไม่มีแนวคิดปลดผู้ว่าฯ

เมื่อเวลา 13.37 น.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางเข้ากระทรวงการคลังครั้งแรกโดยมี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช. ผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่กระทรวงคอยต้อนรับ จากนั้นนายพิชัย ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกระทรวง เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้าปฎิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

 

หลังจากนั้น นายพิชัย ได้กล่าวกับสื่อกระทรวงการคลัง ว่า จากการพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจไทย ตั้งข้อสังเกตว่า หลังเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP Growth) ปรับตัวลงแบบขั้นบันได โดยทุก 5 ปี GDP จะลงมาประมาณ 1% กว่า โดยปัจจุบัน อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเหลืออยู่แค่ 1% กว่าเท่านั้น นับว่า ต่ำเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่มีศักยภาพคล้ายคลึงกัน โดยสาเหตุที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสินค้าส่งออกของไทย เริ่มแข่งขันไม่ได้ และถูกเทคโนโลยีใหม่แทนที่ ก็ต้องปรับโครงสร้าง และต้องการแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 

โดยสิ่งที่กระทรวงการคลังต้องเร่งแก้ปัญหาอันดับแรก คือการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน การทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มขนาดเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ระดับหนี้ลดลง โดยต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่าย และทำให้คนทั้งประเทศเห็นตรงกันก่อน 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีโอกาสตน จะนัดหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือถึงแนวนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจ เพื่อให้นโยบายการเงินกับการคลังมีความสอดคล้องกัน หรือทิศทางเดียวกัน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นงานใหญ่  


“ การพูดคุยกับผู้ว่าแบงก์ชาติจะเกิดขึ้นทันที แต่ต้องดูเวลาให้ตรงกัน เราต้องคุยกัน การทำความเข้าใจ เป็นเรื่องเดียวกันเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ หวังว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี เพราะเชื่อว่าทุกคน อยากเห็นความเจริญของประเทศทั้งนั้น ที่ผ่านมาผมก็ทำงานไม่ต่างกับแวดวงผู้ว่าฯ เชื่อว่าทุกคนมีมุมมองของตัวเอง สิ่งที่ต้องการคือต้องมานั่งคุยกัน หาจุดยืน ตกผลึก เอาข้อเท็จจริงมาวาง และร่วมกันแก้ปัญหาประเทศ การแก้ปัญหาไม่ใช่แค่คนจนต้องช่วยคนทั้งประเทศ ” นายพิชัย กล่าว 

ส่วนจุดร่วมระหว่างแบงก์ชาติกับกระทรวงคลัง ส่วนตัวมองว่า ทางแบงก์ชาติก็อยากเห็นสถานะการเงินของประเทศมั่น อยากเห็นเงินในกระเป๋าของทุนสำรองประเทศมีจำนวนมากๆ รัฐบาลก็อยากให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องดูว่าจะเร่งเศรษฐอย่างไร ถ้าเร่งมากของแพงก็ต้องเบรกหน่อย แต่เราก็มองเห็นเรื่องหนึ่งที่ต้องหยิบมา ว่า วันนี้ของมันฝืดต่ำกว่าที่คาด เหยียบคันเร่งหน่อยดีไหม จะเหยียบอย่างไร ของบางอย่างเหยียบแล้วใช้เงิน บางอย่างเหยียบแล้วไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้นโยบายก็เหยียบได้แล้ว ผมคิดว่าค่อย ๆ คุยกันไป คุยภาษาเดียวกัน เชื่อว่าจริง ๆ แล้วน่าจะคุยภาษาไม่ต่างกันเท่าไหร่

 

ส่วนกรณีกระแสข่าวรัฐบาลจะแก้ไขกฎหมายธปท.เพื่อลดทอนความเป็นอิสระของแบงก์ชาตินั้น ตนมองว่า กฎหมายแบงก์ชาติฉบับปัจจุบันมองว่าดีอยู่แล้ว และที่ผ่านมาแบงค์ชาติทำงานอย่างอิสระอยู่แล้ว ซึ่งทุกประเทศเป็นแบบนี้ มีอิสระในการคิด และการวิเคราะห์ มีอิสระที่จะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทางเลือกนั้นต้องสนองความต้องการของประชาชน การตอบสนองความต้องการของประชาชน พูดง่ายๆก็คือตอบสนอง ความต้องการ คนที่มาทำงานแทนประชาชน ถ้าลงตัว แต่ต้องดูว่าความเป็นอิสระนั้น วินวิน หรือไม่  ถ้าตนไปพูดคุยคงไม่ แค่เรื่องดอกเบี้ย 

 

“ถ้าไปแบงก์ชาติตนจะไม่พูดเรื่องอัตราดอกเบี้ยว่าควรจะปรับลด โดยจะให้แบงก์ชาติเป็นฝ่ายพิจารณาเอง ให้อิสระเพราะเขาเป็นองค์กรอิสระอยู่แล้ว แต่ต้องอิสระแบบวินๆ เพราะความเป็นอิสระต้องตอบสนองประชาชน ตอบสนองคนทำงานแทนประชาชน “นายพิชัย กล่าว 

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังถามว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติ จะอยู่ในตำแหน่งถึงสิ้นปีใช่หรือไม่ นายพิชัย ตอบสั้นๆว่า ถามคำถามที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ใครจะไปทำอะไร

 

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ว่าฯ ธปท. เพียงแค่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ส่วนการภารกิจในการรับตำแหน่งนั้น จะมีการมอบหมายงานให้ภายใน 1-2 วันนี้ หรือคาดว่าจะจบในวันนี้

 

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ตนได้รายงานความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ทราบ ซึ่งท่านมีข้อมูลและติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด 

 

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.67)  จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดิจิทัลวอลเล็ต ในวาระเงื่อนไขร้านค้าที่ก่อนหน้าให้กระทรวงพาณิชย์ไปกำหนดแนวทางสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งหากได้ข้อสรุปจะแถลงต่อสื่อมวลชนให้ทราบต่อไป