คลัง จ่อชงผลศึกษา "กาสิโน" เข้าครม. ภายใน 2 สัปดาห์
รมช.คลัง เผยภายใน 2 สัปดาห์ เตรียมชงผลการศีกษาผลกระทบ รวมทั้งข้อเสนอ สถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงคาสิโน ให้ครม.รับทราบ พร้อมเร่งหาหน่วยงานเจ้าภาพ ลุยยกร่างกฎหมาย ตั้งเป้าเปิดได้ใน 3 ปี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เปิดเผยว่า คาดว่าจะมีการเสนอรายงานศึกษาผลกระทบ และข้อเสนอการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หลังที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร ผ่านความเห็นชอบรายงานการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยประกอบกับข้อสังเกตจากคณะกรรมาธิการ รวมทั้งการยกร่างกฎหมายที่มีการศึกษาไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ ครม.รับทราบทั้งหมด ว่าเห็นควรให้ดำเนินการต่อหรือไม่
"ไม่เกิน 2 อาทิตย์จะนำเข้า ครม.เพื่อรับทราบ หากครม.มีข้อสเนอประเด็นใดก็จะเสนอมา หากที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทาง คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุงร่างกฎหมายเดิม พร้อมศึกษารายละเอียดให้รอบด้าน โดยมีการสั่งการให้มีหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่งเป็นเจ้าภาพในการร่างกฎหมายและนำกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ก่อนนำเสนอสู่สภาผู้แทนราษฎร และหากไม่มีข้อติดขัดอะไร คาดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 3 ปี หรือ ภายในสมัยรัฐบาลชุดปัจจุบัน" นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไทยถือว่ามีความได้เปรียบเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว มีทะเล หาดทราย แสงแดด ไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค การเดินหน้าในเรื่องนี้ จะช่วยดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล และพื้นที่ในการทำกาสิโน ก็มีสัดส่วนน้อยมาก ประมาณ 5% ของ Entertainment Complex ทั้งหมด ซึ่งสามารถกำหนดการลงทุนในแต่ละพื้นที่ได้ เช่น บางพื้นที่เหมาะสมกับการทำธีมปาร์ค บางพื้นที่เหมาะกับการจัดศูนย์ประชุม หรือ บางพื้นที่เหมาะกับการจัดสนามแข่งกีฬา หรือแข่งรถ F1 เป็นต้น
" ในหลักการสถานบันเทิงครบวงจร คงไม่ได้หมายถึงเปิดกาสิโนเพียงอย่างเดียว คงไม่ใช่เป็นการเปิดตึก หรือ ห้องแถวแล้วมีการการพนันเช่นนั้น อย่างประเทศสิงคโปร์ มีการลงทุนเป็นหลัก 2-3 แสนล้านบาท และช่วง 15 ปีช่วยลดการพนันผิดกฎหมายจาก 2% เหลือ 0.2% ของจีดีพี สร้างรายได้เข้ารัฐกว่า 3 แสนล้านบาทในช่วง 10 ปี ยังไม่นับรวมเม็ดเงินที่ได้จากภาคการท่องเที่ยว"นายจุลพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการพูดถึงว่าจะมีการใช้พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ อีอีซี มาจัดทำ Entertainment Complex เป็นเรื่องที่คิดกันกันไปเอง ซึ่งคณะกรรมาธิการที่พิจารณาเรื่องนี้ ไม่มีอำนาจไปชี้ว่าควรใช้พื้นที่ใด เพียงแต่ระบุขอบข่ายเงื่อนไข การเลือกที่มีความเหมาะสม มีการเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ มีระบบขนส่งมวลชนที่มีภาพรวมที่มีความพร้อม เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โรงแรม เป็นต้น
ส่วนการพนันออนไลน์ เห็นว่า ยังไม่ควรมีในไทย เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่มีมาตรการในการควบคุม กำกับดูแลได้ เช่น มาตรการการป้องกันเด็ก และเยาวชน เข้า หากจะมีก็จะเป็นการเปิดให้มีการเล่นออนไลน์แบบปิดใน Entertainment Complex นั้นๆที่กำหนด