posttoday

YLG มองตลาดทองปี67สดใส Gold Spot ทดสอบ2,070-2,144 ดอลลาร์

30 ธันวาคม 2566

YLG มองทิศทางตลาดทองปีเรืองรอง Gold Spot ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 2,070-2,144 ดอลลาร์ ด้วยแรงหนุนจากวงจรดอกเบี้ยขาลงของ FED ส่วนซื้อขายทองคําในบ้านเกาะแนวต้านแรกที่ 35,400 บาท

YLG ฉายภาพสถานการณ์ตลาดทองคำในรอบปีที่ผ่านมาว่า หลังราคาทองคำต่างประเทศ (Gold Spot) ในเดือนพ.ค. 2566 ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทำระดับสูงสุดที่ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยเป็นช่วงที่เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งต้นเหตุมาจากธนาคารภูมิภาค (Regional Bank) ของสหรัฐหลายแห่ง รวมไปถึงธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) เกิดภาวะขาดสภาพคล่องรุนแรง จึงเกิดเป็นวิกฤตภาคธนาคารขึ้น หลังได้รับผลกระทบมาจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟด จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ได้คลี่คลายและไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตลาดกังวล พร้อมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่กลับมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้ทองคำกลับมาโดนแรงขายทำกำไรลงมาระดับหนึ่ง

ทว่าในช่วงต้นไตรมาสที่ 4/2566 ภาวะสงครามระหว่าง อิสราเอลและกลุ่มฮามาส มากระตุ้นให้ราคาทองคำกลับมาดีดตัวขึ้นได้อีกครั้งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค. 2566 กองกำลังฮามาสกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ และจับตัวประกันไปยังฉนวนกาซา (Gaza) อีกทั้ง ทองคำยังได้แรงหนุนจากการกลับมาของกระแสคาดการณ์แนวโน้มการยุติการขึ้นดอกเบี้ย หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินด้วยความแข็งกร้าวที่ลดลง และตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนต.ค.ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งมาตรวัดเงินเฟ้ออย่างดัชนี CPI, PPI และรวมไปถึง Core PCE อีกทั้งตลาดแรงงานสหรัฐได้ลดภาวะตึงตัวลงด้วยเช่นกัน

จากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ จึงส่งผลให้ราคาทองคำ (Gold Spot) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 มีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างสดใส แม้ว่าจะมีจังหวะปรับลงทำระดับต่ำสุด 1,804 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ อย่างไรก็ตาม ราคาสามารถกลับมาปิดบวกได้ถึง 212 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 11.6% สู่ระดับ 2,036 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ด้วยปัจจัยที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยราคาทำระดับสูงสุดในช่วง 11 เดือนแรกที่ 2,079 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค.2566 ที่ระดับ 2,144 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  

ทั้งนี้ ราคาทองคำ (Gold Spot) ณ สิ้นวัน 25 ธ.ค. 2566 ยังคงสามารถทรงตัวอยู่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ได้ โดยราคาปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 2,052 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ นับว่าในปีนี้ เป็นการปรับตัวบวกขึ้นได้ 12.6% YTD ส่งผลให้ในปี 2567 ราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากการเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยอ้างอิงจาก Dot Plot หรือคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากการประชุมเฟดรอบล่าสุดในเดือนธ.ค.2566 ได้บ่งชี้ถึงมุมมองที่ผ่อนคลายมากขึ้นจากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยคาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 มากกว่าเดิมเป็น 3 ครั้ง หรือ 0.75%  

นอกจากนี้ หากดูข้อมูลประกอบจาก CME FedWatch Tool (ณ วันที่ 25 ธ.ค. 2566) ได้สะท้อนคาดการณ์ มุมมองของนักลงทุนว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปี 2567 ได้ถึง 6 ครั้ง หรือ 1.50% อีกทั้ง Core PCE มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของเฟด ยังมีทิศทางปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยตัวเลขล่าสุด ในเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 3.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3.3% และระดับ 3.4% ในเดือนต.ค. ภาพรวมดังกล่าวจึงยังส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มีแนวโน้มย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลให้ทองคำมีโมเมนตัมที่สดใสได้ต่อในปี 2567

คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำในปี 2567

YLG มองตลาดทองปี67สดใส Gold Spot ทดสอบ2,070-2,144 ดอลลาร์

หมายเหตุ : ราคาทองคำ 96.5% ณ ระดับอัตราแลกเปลี่ยน 34.84 บาทต่อดอลลาร์ (อัตราถัวเฉลี่ยย้อนหลัง 1 สัปดาห์)

หลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นผ่าน 2,070-2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2565 และ ปี 2563 ตามลำดับ ราคาทองคำขึ้นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,144 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ความผัวผวนของราคาก็เพิ่มขึ้น และมีแรงขายกดดันอย่างชัดเจน โดยวันดังกล่าวราคาทิ้งตัวลงจากระดับสูงสุด 2,144 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาแตะระดับต่ำสุด ของวันโซน 2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีการแกว่งตัวของราคาสูงถึง 124 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนให้เห็นถึงแรงขายทำกำไรในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2558 ราคาทองคำมีการยกระดับต่ำสุดในรายปีขึ้น จนราคามีการแกว่งตัวเคลื่อนไหวกรอบทรงตัวในระดับสูงในช่วงปี 2563-2566 ส่งผลให้ราคาทองคำในระยะยาว มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางแกว่งตัว Sideway up 

สำหรับนักลงทุนระยะยาว สามารถทยอยเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม เมื่อราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญต่าง ๆ โดยประเมินแนวรับแรกโซน 1,902-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,902 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับต่ำสุดของเดือนก.ค. 2566) และ (1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับต่ำสุดของเดือนก.ย. 2566) เป็นโซนแนวรับแรก หากยืนไม่อยู่จะมีแนวรับถัดไปโซน 1,764 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของเดือนธ.ค. 2565) 

ทั้งนี้เห็นได้จากช่วงที่ผ่าน เมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้โซนรับดังกล่าว จะมีแรงซื้อดันให้ราคาฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน เพราะหากราคาสามารถทรงตัวในระดับสูง หรือการอ่อนตัวลงอยู่ในระดับจำกัด ประเมินว่าเป็นการแกว่งตัวในกรอบเพื่อสะสมแรงซื้อ ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 2,070-2,144 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำในมือจำนวนมาก ให้ทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยง แต่หากรับความเสี่ยงได้สูง หรือหากราคาผ่านแนวต้านแรกได้ สามารถชะลอการขายไปยังโซนแนวต้านถัดไปบริเวณ 2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ผลบอลสด วันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. 68