posttoday

ฮั่วเซ่งเฮงชี้ราคาทองสัปดาห์นี้ไม่พ้น2,075ดอลลาร์คาดปีหน้าทะยานต่อ

25 ธันวาคม 2566

ฮั่วเซ่งเฮงสรุปภาพราคาทองปีนี้ดีดขึ้นกว่า 12.57% จากต้นปี จนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,144 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในไทยบวกกว่า 12.73% ทุบสถิติอยู่ที่ 34,250 บาท พร้อมคาดว่าจะปีหน้ายังทะยานต่อ ส่วนราคาทองสัปดาห์นี้ซื้อขายเบาลงไม่น่าพ้นแนวต้าน 2,075 ดอลลาร์

ทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้ ในมุมมองของฮั่วเซ่งเฮงคาดว่าปริมาณการซื้อขายทองคำจะเริ่มเบาบางลง เนื่องจากตลาดการเงินหลายประเทศมีการปิดทำการในวันคริสต์มาส ได้แก่ สหรัฐ ประเทศในกลุ่มยูโรโซน ฮ่องกง ประกอบกับช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นปี นักลงทุนมักจะเริ่มชะลอการซื้อขายลง ก่อนที่จะมีการหยุดยาว และนักลงทุนบางคนอาจจะเริ่มหยุดยาวนับตั้งแต่วันคริสต์มาสไปจนถึงช่วงขึ้นปีใหม่ ปริมาณซื้อขายทองคำจึงอาจเบาบาง

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำจะเริ่มกลับมาร้อนแรงอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า หากนักลงทุนถือทองคำไว้ ยังสามารถถือต่อได้ข้ามปี เพราะต้นปีหน้า คาดว่าราคาทองคำจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ด้วยแรงหนุนหลายประการ ได้แก่ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับไต้หวัน  ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนม.ค. แรงซื้อทองคำก่อนเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง

ทั้งนี้มองว่า ด้วยแรงซื้อทองคำจากจีนอาจจะเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวลง จากแนวโน้มของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง  อัตราดอกเบี้ยขาลงของเฟด  ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส รัสเซีย-ยูเครน  ก็ยังส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อีกทั้งปีหน้าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ต้องติดตามที่อาจส่งผลต่อเกมโลกที่อาจเปลี่ยนไป

สำหรับแท่งเทียนของราคาทองคำเกิดรูปแบบ Bearish Shooting Star ซึ่งมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จากนั้นเกิดแรงเทขายออกมา แนะนำเข้าซื้อหากราคาทองคำอ่อนตัว เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ในระยะต่อไป สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  2,027 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,070 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,075 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 33,500 บาท และ 33,300 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 33,800 บาท และ 33,950 บาท

ทั้งนี้ฮั่วเซ่งเฮงมองว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดทองคำเป็นบวก จะมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ตลอดจนเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้นในปี 2567 ด้านปัจจัยลบคือ ความต้องการทองคำจากจีนลดลง

ทองคำปีนี้แตะระดับสูงสุดประวัติการณ์ ปีหน้าทองขึ้นต่อ

ราคาทองคำ spot ปีนี้ได้ปรับตัวขึ้นกว่า  12.57% จากต้นปี ซึ่งในปีนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2,144 ดอลลาร์ จากปัจจัยหนุนการส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.2567 ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้ปรับตัวขึ้นกว่า 12.73%  และปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 34,250 บาท โดยราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นมากกว่าราคาทองคำต่างประเทศ จากแรงหนุนเสริมมาจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยในปีนี้ โดยเงินบาทอ่อนค่า 0.11%

สรุปภาพราคาทองคำปีนี้

ทั้งนี้ปีนี้ราคาทองคำได้รับปัจจัยหนุนหลายประการ นั่นคือ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลง ทำให้มีการคาดว่าดอกเบี้ยขาขึ้นของเฟดใกล้จะยุติลงแล้ว และเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2567  ซึ่งปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลอดทั้งปี ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุ All time high 2 รอบ

โดยรอบแรกราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงสู่ระดับ 2,078 ดอลลาร์ ทะลุ All time high เดิมที่ระดับ 2,075 ดอลลาร์ในอดีต   จากเฟดส่งสัญญาณว่าอาจหยุดใช้มาตรการขึ้นดอกเบี้ยหลังจากเพิ่มขึ้น 10 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่ปีที่ผ่านมา 

ส่วนรอบ 2 ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุ All time high อีกครั้งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,144 ดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีหน้า ประการต่อมา คือ ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และในช่วงเดือนก.ค. รัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงธัญพืชในทะเลดำ สร้างความกังวลว่าราคาอาหารต่างๆ จะกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง และส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อทั่วโลก

นอกจากนี้ ได้เกิดสงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาสขึ้นมา สร้างความกังวลในช่วงแรกว่า สงครามอาจขยายเป็นวงกว้างขึ้น หากว่าอิหร่านเข้าร่วมสงคราม เนื่องจากอิหร่านมีแนวโน้มที่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ที่มีการขนส่งน้ำมันปริมาณรวม 17.2 ล้านบาร์เรลในแต่ละวัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของการขนส่งทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น กระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวลง แต่สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสยังอยู่ในวงจำกัดขณะนี้ 

ประการสุดท้าย คือการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำกว่า 842 ตัน ภายใน 10 เดือนแรกของปีนี้ จากปี 2565 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรองกว่า 1,136 ตัน หรือมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามากสุดในรอบ 55 ปีนับตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งในปีนี้ธนาคารประชาชนจีนได้เข้าซื้อทองคำมากที่สุดกว่า 204 ตัน (ข้อมูลถึง 31 ตุลาคม 2566) รวมเพิ่มปริมาณสำรองเป็น 2,215 ตัน  ซึ่งถือว่าเป็นการเดินหน้าเข้าซื้อทองคำติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2565 

แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปริมาณสำรองทองคำยังคิดเป็นเพียง 4% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ รองลงมาคือ ธนาคารแห่งชาติแห่งโปแลนด์ที่มีเข้าซื้อทองคำรวมกว่า 111 ตัน โดยธนาคารแห่งชาติแห่งโปแลนด์มีแผนที่จะซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 100 ตันในทุกปี โดยจะเพิ่มปริมาณสำรองแตะระดับ 20% จากปัจจุบัน 11% ของทุนสำรอง

สำหรับผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 ธ.ค.66 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 8 ราย หรือเทียบเป็น 57% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 321 ราย ในจำนวนนี้มี 202 ราย หรือเทียบเป็น 63% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 62 ราย หรือเทียบเป็น 19% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 57 ราย หรือเทียบเป็น 18% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 33,450 – 33,700 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 33,650 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 250 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 33,400 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอล- ฮามาส หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ประกาศจะโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงเพื่อตอบโต้อิสราเอลโจมตีชาวฮามาส ส่งผลให้แนวโน้มสถานการณ์ตึงเครียดในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ ได้ประกาศจัดตั้งหน่วยพิเศษร่วมกับชาติพันธมิตร ภายใต้ปฏิบัติการที่ชื่อว่า “Operation Prosperity Guardian” เพื่อรับมือกับการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี

2. บรรยากาศการซื้อขายของตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำยังคงเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการเข้าตลาดก่อนช่วงวันหยุดปลายปี เพราะตลาดเงินตลาดทุนหลายประเทศหยุดยาวต่อเนื่อง ทั้งในวัน Christmas Eve, Christmas Day และบางประเทศหยุดในวัน Boxing Day ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมักจะแคบลงหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงเทศกาลปีใหม่

3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโก และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

GRC Gold Survey 25-29 Dec 2023

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ