posttoday

คลัง จ่อชงครม. ยกหนี้เน่าช่วงโควิดกว่าล้านราย

08 ธันวาคม 2566

รมช.คลัง เผยเตรียมเสนอ ครม. อังคารนี้ ให้ยกหนี้เสียช่วงโควิดกว่าล้านราย เล็งเฉพาะกลุ่มปล่อยกู้ฉุกเฉินหัวละหมื่น พร้อมพักหนี้SMEอีก 6 หมื่นราย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอครม.พิจารณามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาเป็นหนี้เสีย (รหัส21) ที่เป็นเอสเอ็มอี ประมาณ 5-6 หมื่นราย รวมทั้งกลุ่มลูกหนี้โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน รายละ 1 หมื่นบาท ที่ปล่อยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกประมาณกว่าล้านราย วงเงินราว 1 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนนี้ไม่ได้เป็นหนี้เสียทั้งหมด โดยจะมีกลไกในการเข้าไปช่วยเหลือ โดยที่รัฐไม่มีความเสียหายเพิ่มเติม

 

สำหรับลูกหนี้เอสเอ็มอี รหัส 21 นั้น จะมีมาตรการทั้งการพักหนี้ และอุดหนุนอัตราดอกเบี้ยให้บางส่วน ซึ่งกระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถดึงลูกหนี้กลุ่มนี้กลับมาได้ราว 99.5% ของลูกหนี้เอสเอ็มอี รหัส 21 ทั้งหมด ส่วนลูกหนี้จากสินเชื่อฉุกเฉินกว่าล้านรายนั้น จะมีกลไกในการให้ความช่วยเหลือ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้มีการกันหนี้เสียไว้แล้ว 50% ซึ่งจะเอาส่วนนั้นมาดำเนินการ จึงไม่เกิดความเสียหายเพิ่มเติมต่อรัฐ เพื่อช่วยให้เขาหลุดออกมาจากความเป็นหนี้เสีย
 

"ลูกหนี้โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน ช่วงโควิด รายละ 1 หมื่นบาท  พบว่าเป็นหนี้เสียจำนวนมากกว่าล้านกว่าคน เพราะตอนออกนโยบายหลายคนที่เขามากู้ ไม่ได้คิดว่าเป็นการกู้แต่เป็นการแจก แต่สุดท้ายเป็นสินเชื่อ จึงทำให้คนเหล่านี้เป็นหนี้เสีย จึงต้องเข้าไปช่วยกลุ่มนี้โดยการดึงให้เขากลับมามีสถานะปกติ ก็คือยกหนี้ให้ไปเลย เพราะปัจจุบันก็คงตามตัวไม่เจออยู่แล้ว เขาจะได้เดินกลับเข้ามา" นายจุลพันธ์กล่าว

อย่างไรก็ดี สำหรับลูกหนี้สินเชื่อฉุกเฉินโควิด-19 ที่ดี มีการชำระหนี้ครบถ้วนนั้น หากลูกหนี้ต้องการกลับเข้าสู่กระบวนการขอสินเชื่อใหม่ ๆ ก็จะได้สิทธิพิเศษ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย หรือเพิ่มวงเงินให้ เป็นต้น
 

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของรัฐบาลคือต้องการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ จึงต้องการดึงลูกหนี้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติที่ทำให้เขาสามารถเดินหน้าประกอบอาชีพต่อไปได้ ส่วนจะทำให้เกิดปัญหาลูกหนี้ที่ดีจงใจผิดนัดชำระหนี้ (Moral Hazard) นั้น อยากให้เข้าใจว่ากระบวนการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้ หรือการแก้หนี้ ไม่ว่าจะทำนโยบายไหน ทุกอย่างมี Moral Hazard ทั้งหมด และกระทรวงการคลังรู้ในประเด็นดังกล่าวดี แต่ว่าโจทย์แรกที่สำคัญ คือ การเอาประชาชนกลุ่มนี้กลับคืนมาก่อน