‘สหรัฐ’ ประกาศช่วยไทยด้านเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เอกอัครราชทูตสหรัฐ ประกาศร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด สนับสนุนเทคโนโลยีชั้นสูงรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทำงานร่วมกับกระทรวงพลังงานตามแผนพลังงานแห่งชาติที่กำลังจะประกาศใช้
โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา Climate Tech Forum ซึ่งจัดโดยกรุงเทพธุรกิจและบางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส (BIG) ที่โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเนีย กรุงเทพฯ ว่า ไทยกับสหรัฐได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งทั่วโลกรวมทั้งไทย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดพายุรุนแรงบ่อยขึ้นกว่าเดิม การพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนเป็นไปได้ยากขึ้น ตามมาด้วยภัยแล้งและน้ำท่วมที่รุนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระดับน้ำทะเลก็เพิ่มสูงขึ้นซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อชุมชนชายฝั่ง ถ้าร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เราจะสามารถส่งต่อโลกที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง และเศรษฐกิจที่เข้มแข็งให้แก่ลูกหลานได้
ทั้งนี้ สหรัฐทำงานร่วมกับกระทรวงพลังงานของไทย ซึ่งเตรียมประกาศแผนพลังงานแห่งชาติออกมาเร็ว ๆ นี้ โดยแผนดังกล่าวตั้งอยู่บนหลักการของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล การลดการปล่อยคาร์บอน การกระจายอำนาจ และการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐมาช่วยไทยวางโครงสร้างทางกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกัน สหรัฐยังทำงานร่วมกับบริษัทของไทยที่มีวิสัยทัศน์ไกลอย่าง ปตท. ซึ่งเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานแบบใหม่อย่างยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และพลังงานไฮโดรเจน ตลอดจนการแสวงหาหนทางลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบดั้งเดิม โดยใช้ก๊าซธรรมชาติ ผ่านการดักจับ การนำมาใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน
เอกอัครราชทูตสหรัฐมองว่า กรุงเทพได้เดินหน้าการเป็นเมืองต้นแบบด้านเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งรวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสหรัฐฯ กำลังช่วยวางรากฐานสำหรับการขยายตัวการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ชาร์จไฟและการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและเชื่อถือได้ผ่านบริษัทต่าง ๆ อย่างเทสลา (Tesla) แต่เราไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงลำพัง ดังนั้นจึงเกิดความร่วมมือกับบริษัทโตโยต้า และรัฐบาลญี่ปุ่นและบริษัทญี่ปุ่นด้วย
เมื่อปีที่แล้ว โตโยต้าลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท อีวีโลโม (EVLOMO) ของสหรัฐฯ และบริษัทในเครือของปตท. (บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR) เพื่อร่วมมือกันพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะสองล้อในประเทศไทย นอกจากนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นยังช่วยไทยพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัยขึ้นและบูรณาการการใช้พลังงานหมุนเวียนผ่านกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนด้านพลังงานแม่น้ำโขงระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐ (Japan-U.S. Mekong Power Partnership)
สหรัฐและไทย มีบริษัทหลายแห่งที่เป็นตัวกลางเชื่อมความร่วมมือระหว่างกัน หนึ่งในนั้นคือบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส ซึ่งเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของความเป็นหุ้นส่วนสหรัฐ-ไทย และได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานในวันนี้ ขณะที่กลุ่ม BIG ก็เป็นผู้นำที่แท้จริงในการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนโดยนำเทคโนโลยีของสหรัฐมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่มุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่ดีกว่าเดิมด้วยการนำเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศมาใช้ ตนเชื่อมั่นว่าผลลัพธ์คือโลกที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเดิมสำหรับคนรุ่นต่อไป ตลอดจนระบบเศรษฐกิจที่หลากหลายและมีประสิทธิผลบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย


