ปั้น MEDIS สู่ผู้นำนวัตกรรม “ตู้จ่ายยาอัตโนมัติ” รายแรกในไทย เข้าตลาดฯ ปี 69
จาก “นายแบงก์” เปลี่ยนทิศปั้น MEDIS สู่ผู้นำนวัตกรรม “ตู้จ่ายยาอัตโนมัติ” รายแรกในไทย ปักธงขยายตู้เป็น 1,000 ตู้ ภายในไตรมาส 1/67 ลุยขายแฟรนไชส์-เจรจาพันธมิตร ซัพพอร์ตเงินทุน คาดสรุป ก.ค.-ส.ค.นี้ สร้างยอดขายปี 67 พุ่ง 100 ล้านบาท ดันเข้าตลาดหุ้นไตรมาส 1/69
หากพูดถึง ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือ Vending Machine หลายคนคงนึกถึงตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม ขนม และสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะในตลาดมีตู้จำหน่ายสินค้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ทั้งตู้ของเจ้าของผลิตภัณฑ์เองที่จำหน่ายเฉพาะแบรนด์สินค้าของตัวเองเท่านั้น และตู้ของผู้ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ที่ได้รวบรวมสินค้าหลากหลายมาไว้ในตู้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค
แต่ผู้บริโภคอาจจะยังไม่นึกถึงตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่เกี่ยวกับยาสามัญประจำบ้าน ซึ่ง “โพสต์ทูเดย์” จะพามารู้จักกับ “MEDIS” แพลตฟอร์มจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง ผ่านระบบตู้จ่ายยาอัตโนมัติ ที่สามารถซื้อได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ บริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MEDIS) ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มจำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง ผ่านระบบตู้จ่ายยาอัตโนมัติ โดยออกแบบตู้และส่งไปให้ประเทศจีนเป็นผู้ผลิตตู้ จากนั้นส่งตู้ที่ผลิตเสร็จแล้วกลับมาให้บริษัทเป็นผู้เขียนระบบหลังบ้านเอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.2564 โดยการร่วมมือระหว่าง “สรพล พันธุมะผล” กับผู้ร่วมทุนอีก 2 คน ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท
“สรพล พันธุมะผล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDIS เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจว่า เนื่องจากผู้ก่อตั้งทุกคนเล็งเห็นถึงปัญหาของผู้บริโภคในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ซึ่งยังไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงร้านยาได้สะดวก และไม่สามารถทำการซื้อยาสามัญประจำบ้านได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน มองว่าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในไทยยังมีไม่มากนัก เมื่อเทียบกับประเทศในเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ประกอบกับตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในไทยมีแต่สินค้าอุปโภคบริโภค ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ยา และกลุ่มเฮลตี้ ซึ่งยา ถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 จึงผนวกยาสามัญประจำบ้านเข้ากับการขายผ่านตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ เป็น “ตู้ยาอุ่นใจใกล้คุณ 24 ชั่วโมง” เพื่อช่วยเหลือให้ผู้บริโภคเข้าถึงยาสามัญประจำบ้านให้ได้มากและเร็วที่สุด ลดอัตราความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด
สำหรับแผนธุรกิจและเป้าหมายของบริษัทนั้น วางกลยุทธ์ขยายตู้จ่ายยาอัตโนมัติ 100-500 ตู้ ภายในสิ้นปี 2566 จากปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 45 ตู้ และเพิ่มเป็น 1,000 ตู้ ภายในไตรมาส 1/2567 ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากนั้นภายใน 5 ปี นับจากปี 2566 จะเพิ่มเป็น 70,000 ตู้ ทั่วประเทศ
ในส่วนของพื้นที่ติดตั้งตู้จ่ายยาอัตโนมัติ ในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทมีแผนติดตั้งในที่พักอาศัยที่เป็นคอนโดมิเนียม เนื่องจากคอนโดมิเนียมในไทยมีไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 แห่ง ซึ่งบริษัทได้มีการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทบริหารจัดการชุมชนชั้นนำไว้แล้วหลายแห่ง รวมไปถึงโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม สถานี MRT สถานี BTS และสนามบิน
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 2567 ยอดขายจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐาน 1,000 ตู้ จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท (45 ตู้) หรือประมาณ 30,000-50,000 บาท/ตู้/เดือน ขณะที่ยอดทำรายการคาดว่าจะขึ้นไปอยู่ที่ 250,000 รายการ/เดือน (1,000 ตู้) จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 13,000 รายการ/เดือน (45 ตู้) หรือประมาณ 250-300 รายการ/ตู้/เดือน และจำนวนสมาชิกคาดว่าจะอยู่ที่ 2 ล้าน User (1,000 ตู้) จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,000 User (45 ตู้)
ส่วนจำนวนยา และสินค้าอื่นๆ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 88-100 SKUs จากปัจจุบันมี 44 SKUs ทั้งยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และสินค้าอื่นๆ เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาอม ยาดม ยาหม่อง สำลี ยาทาแผล น้ำวิตามิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม มีรายการข้อมูลสินค้าในมืออยู่กว่า 500-600 สินค้า
รวมไปถึงการเปิดขายแฟรนไชส์ตู้จ่ายยาอัตโนมัติ ปัจจุบันมี 9 ตู้ และล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดขายแฟรนไชส์ตู้จ่ายยาอัตโนมัติอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2566 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างปิดการขาย 10-15 ตู้
โดย JSP จะขายยาแบรนด์สุภาพโอสถผ่านตู้ยาเมดิส และช่วยซัพพอร์ตลูกค้า OEM ให้มีช่องทางในการจำหน่ายผ่านตู้ยาเมดิส รวมทั้งช่วยดำเนินการติดต่อกับร้านขายยา และซัพพลายเออร์ต่างๆ
สำหรับโมเดลธุรกิจสำหรับแฟรนไชส์ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การเช่าตู้สัญญา 3 ปี โดยตู้ยังเป็นของบริษัท และ 2.การซื้อตู้ โดยตู้เป็นของผู้ซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะมีทั้งในส่วนของค่าเช่า หรือซื้อตู้ กับค่าดูแลระบบรายเดือน
ประกอบกับบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนหลายราย ทั้งบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณ 3-4 ราย ที่มีความสนใจเข้ามาร่วมทุนในการขยายตู้จ่ายยาอัตโนมัติ เนื่องจากมองเห็นประโยชน์ในการขยายตู้ของบริษัทในส่วนนี้
“การที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จจะต้องดูภาพรวมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ซึ่งบริษัทได้พันมิตรปลายน้ำเข้ามาตั้งแต่แรก และได้พันธมิตรต้นน้ำมาแล้ว ตอนนี้ขาดพันธมิตรกลางน้ำ ที่จะเป็นทั้งแหล่งเงินทุน และโลจิกติกส์ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.2566 ถ้ามีเงินทุนเข้ามาชัดเจน เราพร้อมขยายการติดตั้งตู้จ่ายอัตโนมัติ 500-1,000 ตู้ ได้เลย”
อีกทั้งบริษัทมีแผนจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์ โดยบริษัทรอให้มีจำนวนสมาชิก 1 ล้าน User จึงจะพัฒนาช่องทางดังกล่าว รวมไปถึงการให้คำปรึกษาโดยเภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนพัฒนาตู้จำหน่ายสินค้าใหม่ “MEDIS PLAY” ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับแก้เมา เพื่อป้องกันคนเมาแล้วขับ ลดอุบัติเหตุ เจาะตลาดธุรกิจร้านอาหารที่มีแอลกอฮอร์จำหน่าย รวมทั้งมีเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอร์ติดกับตู้ไว้ให้บริการด้วย คาดว่าจะเริ่มเห็นตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติดังกล่าว ในไตรมาส 2/2567
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย โดยเตรียมยื่นไฟลิ่งในช่วงกลางปี 2568 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงไตรมาส 1/2569


