posttoday

NTT ทุ่ม 3 พันล้านเดินหน้าสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ล่าสุดใน EEC

22 มีนาคม 2566

NTT เผยแผนลงทุน 3 พันล้านบาท สร้างศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปักหลักพื้นที่ศักยภาพใกล้กรุงเทพฯ ปั้นดาต้าเซ็นเตอร์ ระดับ Tier 3 - ขนาด 12 เมกะวัตต์

นายทาเคชิ คิมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นทีที โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ส โฮลดิ้ง เอเชีย จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจบนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอยู่ในเอเชียใต้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลคุณภาพสูงมารองรับความต้องการทางด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขององค์กร

หลังจากการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่จาการ์ตา Jakarta 3 Data Center (JKT3) ในอินโดนีเซียแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 รวมถึงศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา Cyberjaya 6 Data Center (CBJ6) ในมาเลเซีย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2566

ล่าสุดบริษัทได้เดินหน้าประกาศแผนให้บริการ BKK3 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 บนพื้นที่ติดกับศูนย์ข้อมูล Bangkok 2 Data Center (BKK2) โดยวางแผนจะขยายเพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจะสามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทย รวมถึงรองรับการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้ข้อมูล

โดยดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่นี้ใช้เงินลงทุนมูลค่า 3 พันล้านบาท (ประมาณ 90 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ ระดับ Tier 3 - ขนาด 12 เมกะวัตต์บนพื้นที่รวม 4,000 ตร.ม.ด้วยทำเลศักยภาพห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯเพียง 57 กม. ของนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งใหม่จะสามารถสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลและองค์กรต่างๆ ด้วยการมอบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ บนประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหมาะสม และความคุ้มค่าที่รองรับความหนาแน่นสูงถึง 30kW ต่อแร็ค

ด้านนายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับผิดชอบการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และไทย กล่าวว่า เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตที่สำคัญสำหรับ NTT และในขณะที่ประเทศไทยมีความก้าวหน้าด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการการรับส่งข้อมูลในปริมาณมากแบบเรียลไทม์จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงยินดีที่จะริเริ่มการก่อสร้าง BKK3 และการขึ้นเป็นผู้นำที่มีบทบาทหลักต่อการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย

ความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลและบริการโฮสติ้งที่มีระบบจัดการ (data storage and managed hosting services) คาดว่าจะเติบโตอย่างมากทั่วประเทศไทย ศูนย์ข้อมูล BKK3 จะรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผู้ให้บริการคลาวด์และอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งต้องการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลที่ออกแบบอย่างยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ

ขณะที่นายสุทธิพัฒน์ ลือประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การริเริ่ม BKK3 ที่จะควบคู่ไปกับ BKK2 ที่มีอยู่ เพื่อต่อยอดการดำเนินงาน การวางแผน และการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ต่ำถึง 1.4 เท่า พร้อมยังคงนำพลังงานสีเขียวมาใช้ในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลของ NTT และยึดเอาความยั่งยืนมาเป็นแกนหลักในการวางนโยบายของบริษัท โดย NTT Ltd. จะมุ่งเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทย
 

ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่กำลังสร้างขึ้นตามวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท NTT Group ในด้านนวัตกรรมสีเขียวที่วางแผนระยะยาวไว้ถึงปี 2040 (พ.ศ. 2583) กรอบวิสัยทัศน์ดังกล่าวจะช่วยให้ NTT บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้งกลุ่มบริษัทภายใน พ.ศ. 2573 และทั่วทั้งห่วงโซ่ value chain ภายใน พ.ศ. 2583 สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายใน พ.ศ. 2593