posttoday

แรงหนุนท่องเที่ยว ดันส่งออกอัญมณี พุ่งกว่า 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

09 มกราคม 2566

การส่งออกอัญมณี 11 เดือนปี 65 เพิ่มขึ้น 34.02% มูลค่ากว่า 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว คาดทั้งปียังบวกได้อีก แต่ต้องจับตาเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง ฉุดกำลังซื้อ และมาตรการลดคาร์บอน ที่อาจเป็นมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษีได้

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือนพ.ย.2565 มีมูลค่า 687.81 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% หากรวมทองคำ มีมูลค่า 868.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.98% และยอดรวม 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) ไม่รวมทองคำ มีมูลค่า 7,466.16 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.02% และหากรวมทองคำ มีมูลค่า 14,489.54 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 57.24%

 

สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขยายตัวเพิ่มขึ้น มาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น จากการที่เงินเฟ้อ และราคาสินค้าในหลายประเทศเริ่มลดลง ค่าขนส่งสินค้าในหลายเส้นทางทั่วโลกปรับลดลง การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทำให้มีการซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และช่วงปลายปี 2565 เป็นช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นปัจจัยหนุนทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินบาท แม้จะแข็งค่าขึ้น แต่ก็ไม่ได้แข็งเร็วเกินไป ยังช่วยให้สินค้าไทยแข่งขันได้ และหลายตลาด มีการสั่งซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

 

ขณะที่ ตลาดส่งออกสำคัญที่มีอัตราการขยายตัวได้ดีในช่วง 11 เดือน  อาทิ สหรัฐฯ เพิ่ม 23.60% อินเดีย เพิ่ม 91.61%  เ สหราชอาณาจักร เพิ่ม 36.67% สิงคโปร์ เพิ่ม 159.95% สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 82.48% เบลเยี่ยม เพิ่ม 34.76% และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 32.84% 
 

 

ส่วนสินค้าสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องประดับทอง เพิ่ม 49.32% เพชรก้อน เพิ่ม 5.39% เพชรเจียระไน เพิ่ม 50.19% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 99.89% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 73.94% พลอยก้อน เพิ่ม 53.28% เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 3.12% และเครื่องประดับแพลทินัม เพิ่ม 9.32% 

 

สำหรับ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วง 11 เดือนของปี 2565 ยังสามารถเติบโตได้ดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยรุมเร้า ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งถือว่าไทยทำได้ดี และคาดว่าตัวเลขที่เหลืออีก 1 เดือน คือ ธ.ค.2565 จะยังขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมการส่งออกทั้งปี ยังเป็นบวกได้สูง
 

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 แนะนำให้ผู้ประกอบการระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากการเติบโตในปี 2566 อาจขาดปัจจัยหนุน ทำให้เติบโตลดลง จากปัญหาเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูงขึ้น และการกลับมาระบาดของโควิด-19 จนทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งต้องเตรียมความพร้อมรับมือมาตรการปรับราคาคาร์บอน ก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ CBAM รวมทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และยุโรปให้ความสำคัญมาก อาจก่อให้เกิดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีได้