posttoday

สคฝ. ยันสถาบันการเงินไทยฐานะยังแกร่ง

01 ธันวาคม 2565

สคฝ. ชี้แม้ธปท.คืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บ.เงินทุน ศรีสวัสดิ์ และ ธ.เอเอ็นแซต (ไทย) ส่งผลให้สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองเงินฝากลดเหลือ 32 แห่ง แต่มั่นใจฐานะสถาบันการเงินไทยยังแข็งแรง ไม่กระทบผู้ฝาก สภาพคล่องยังสูง ปัจจุบันเงินกองทุนฯกว่า 1.34 แสนล้านบาท

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA กล่าวว่า ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย อนุมัติการขอคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคาร เอเอ็นแซด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เหตุผลหลักๆ เป็นเรื่องแผนดำเนินการทางธุรกิจของสถาบันการเงินจาก Subsidiary bank ไปเป็น Representative Office (สำนักงานผู้แทน) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 และวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ตามลำดับ ทำให้ปัจจุบันสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองเงินฝากมีจำนวน 32 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ 17 แห่ง สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ 11 แห่ง บริษัทเงินทุน 1 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง อย่างไรก็ตาม DPA ขอให้ความมั่นใจกับผู้ฝากเงินว่า กรณีการคืนใบอนุญาตดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามธุรกิจปกติ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบคุ้มครองเงินฝาก โดยเฉพาะเสถียรภาพของกองทุนคุ้มครองเงินฝาก 


ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีจำนวน 1.34 แสนล้านบาท ซึ่งมีความเข้มแข้ง และมีสภาพคล่องที่เหมาะสม ทางสถาบันฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการออมเงิน การคุ้มครองเงินฝากให้แก่ประชาชนคนไทยอยู่เสมอ เป็นความพร้อมสำหรับการสร้างรากฐานความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวต่อไป 

 

สำหรับ ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงิน  โดยมีวงเงินคุ้มครองจำนวน 1 ล้านบาทต่อ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน และต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น ทั้งนี้วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท ยังคงมีสัดส่วนที่ครอบคลุมผู้ฝากกว่า 98% ที่เป็นผู้ฝากส่วนใหญ่ของประเทศ โดยหากเกิดเหตุการณ์วิกฤตสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต DPA จะทำหน้าที่จ่ายเงินแก่ผู้ฝากเงิน โดยใช้เงินจากกองทุนคุ้มครองเงินฝาก ไม่ใช่เงินภาษีของประชาชน และจะทำการจ่ายภายใน 30 วัน ผ่านการโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ผูกกับหมายเลขประจำตัวประชาชนหรือการจ่ายด้วยเช็คซึ่งจะถูกส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านที่ผู้ฝากเคยให้ข้อมูลไว้กับสถาบันการเงินนั้นๆ