posttoday

แห่ขนน้ำมันมาเลย์ขายไทย

10 มกราคม 2554

ปั๊มหลอด ร้านค้า ภาคใต้ของไทย แห่ซื้อน้ำมันราคาถูกจากมาเลย์ ขายทำกำไร เบนซิน-ดีเซลถูกกว่า10-20บ. 

ปั๊มหลอด ร้านค้า ภาคใต้ของไทย แห่ซื้อน้ำมันราคาถูกจากมาเลย์ ขายทำกำไร เบนซิน-ดีเซลถูกกว่า10-20บ. 

กระทรวงพลังงาน แจ้งว่า ขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันดีเซลและเบนซินจากประเทศมาเลเซียมาจำหน่ายในภาคใต้ของไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนติด จ.สตูล คาดว่าอาจลักลอบนำเข้าสูงถึงวันละ 5 หมื่น–1 แสนลิตร

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันฝั่งมาเลเซียถูกกว่าไทยเฉลี่ยลิตรละ 10-20 บาท ส่วนใหญ่ปั๊มน้ำมันหลอดแก้วรับซื้อจากขบวนการลักลอบอีกทอดหนึ่ง รวมถึงร้านค้าทั่วไปนำน้ำมันจากมาเลเซียมาบรรจุขายขวดละ 1 ลิตร เพราะได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถในประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะปั๊มหลอดแก้วบางรายขายน้ำมันได้มากถึง 500 ลิตรต่อวัน

สำหรับขบวนการลักลอบน้ำมันจะร่วมมือทางธุรกิจกันระหว่างพ่อค้าในประเทศมาเลเซียกับไทย โดยมีคลังน้ำมันอยู่ในฝั่งไทย ผู้ที่จะมารับซื้อต่อจะเป็นผู้ค้าน้ำมันในลักษณะปั๊มหลอดแก้ว นำเบนซินมาขายในราคา 28-30 บาทต่อลิตร และดีเซล 25-26 บาทต่อลิตร ขณะที่ดีเซล บี3 ของไทย ขายในต่างจังหวัดเกิน 30 บาทต่อลิตร และเบนซิน 91 อยู่ที่ 39 บาทต่อลิตร เปรียบเทียบราคาขายเบนซิน 91ในมาเลเซียลิตรละ 18-19 บาท ดีเซล 20-21 บาท

วิธีการรับลำเลียงน้ำมันจากคลังมาขายต่อนั้น ในช่วงกลางวันจะใช้รถจักรยานยนต์บรรทุกแกลลอนเที่ยวละ 100-200 ลิตร แต่กลางคืนจะใช้รถกระบะดัดแปลงเพื่อบรรจุน้ำมันให้ได้ 1,000-2,000 ลิตร เพื่อหลบเลี่ยงตำรวจ คาดว่าพื้นที่ใน จ.สตูล จะเป็นการลักลอบที่ใหญ่สุด เพราะพื้นที่อื่นโดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คงดำเนินการยากเพราะมีด่านทหารคอยตรวจเพื่อรักษาความสงบเข้มงวด ขณะที่ จ.สงขลา ส่วนใหญ่จะเป็นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มมากกว่า

ด้านปั๊มน้ำมันรายใหญ่ เช่น ปตท. บางจาก และปั๊มต่างชาติในไทยไม่กล้าที่รับซื้อน้ำมันมาเลเซียมาขายต่อ เพราะบริษัทแม่มี นโยบายห้ามเด็ดขาด อีกทั้งเจ้าหน้าที่กรมธุรกิจพลังงานก็เข้มงวดในการตรวจสอบด้วย

กลุ่มที่มีการใช้น้ำมันมาเลเซียกันมาก ส่วนใหญ่เป็นภาคอุตสาห กรรมรายเล็กรวมถึงเกษตรกรเช่น ทำนากุ้ง เนื่องจากสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ รถปิกอัพ และรถหรูก็หันมาเติมสลับกับน้ำมันของไทย เพราะหากเติมน้ำมันมาเลเซียมากเกินอาจมีผลเสียต่อระบบเครื่องยนต์ระยะยาว

นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนพลังงานทดแทนปีนี้จัดเป็นปีกระต่ายเพชร จะเห็นการลงทุนชัดเจนหลายโครงการ ซึ่งทยอยเปิดตัวโครงการกันบ้างแล้ว จะมีผลให้การใช้พลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 12-14% ของการใช้พลังงานทั้งหมด

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ