ซีอาร์จี ร่วมทุน ชินคันเซ็น ซูชิ พัฒนาสินค้า Grab & Go พร้อมขยายสาขาเข้าศูนย์ฯ เป้า3ปียอดขาย 2,000 ล้านบาท
ซีอาร์จี เข้าถือหุ้น 51% ใน ชินคันเซ็น ซูชิ ต่อยอดธุรกิจปั้นร้าน Format ใหม่ แบบ Grab & Go พร้อมขยายสาขาในศูนย์การค้า คาดการณ์ 3 ปี มีจำนวนสาขาทั่วประเทศ 70 สาขา สร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “ซีอาร์จี” ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า บริษัท ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ในบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการผลิต และจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น และเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อทางการค้า “ชินคันเซ็น ซูชิ” (Shinkanzen Sushi) และ “เซ็นมะ ซูชิ” (Senma Sushi)
แนวทางดังกล่าว เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโต จากการผนึกกำลังพันธมิตร กับผู้ประกอบการร้านอาหารเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพมาขยายธุรกิจ โดยใช้จุดแข็งทั้ง 2 ฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกัน หรือเกิด Win-Win strategy โดยซีอาร์จี มีจุดแข็งช่วยเสริมแกร่งพันธมิตรหลายด้าน เช่น มีอีโคซิสเทมรองรับ มีการดำเนินงานที่ดี แนวทางการปฏิบัติงานเป็นเลิศ ระบบหลังบ้านต่าง ๆ ช่วยสร้างประโยชน์ และซีนเนอร์ยีด้านต้นทุน เอื้อให้การขยับขยายธุรกิจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
“การตัดสินใจเข้าร่วมทุน กับ เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ด้วยมองว่า แบรนด์ ชินคันเซ็น ซูชิ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของ ซีอาร์จี ได้ ด้วย ชินคันเซ็น ซูชิ มีจุดเด่นเป็นอาหารญี่ปุ่น ที่เน้นการขายซูชิ และมองว่าตลาดอาหารญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย และเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่” นายณัฐ กล่าว
สำหรับแผนการขยายธุรกิจ บริษัทฯ จะขยายสาขาทั้งในร้านรูปแบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นแบบ dine-in และ การพัฒนาสินค้าในรูปแบบ grab & go รวมถึงต่อยอดร้านในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เช่น คีออส และ คลาวด์ คิทเช่น รวมถึงมองหาโอกาสในการขยายเข้าไปในศูนย์การค้า เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี หากสถานการณ์ปกติ จะสามารถขยายสาขาได้ต่อเนื่อง และมีจำนวนสาขา 60 - 70 สาขาทั่วประเทศ
“เรามองการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีไอเดีย คอนเซ็ปต์ร้านดี แล้วต้องการขยายธุรกิจ ซึ่ง ซีอาร์จี มีจุดแข็งที่สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการได้ ทั้งในรูปแบบที่มาร่วมอยู่ในคลาวด์คิทเช่นของเรา และ ในรูปแบบการร่วมทุนกัน เพราะมองว่าการอยู่ร่วมกันดีกว่าอยู่คนเดียว จึงจะเห็นเราทำ M&A มากขึ้น เพราะรายย่อยเก่ง มีความสามารถ มีความถนัดหลายด้าน และเราพร้อมช่วยขยายสาขา การรวมพลังกันจึงไม่มีทางที่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แต่เติบโตมากกว่านั้นได้” นายณัฐ กล่าว
นายชนวีร์ หอมเตย และ นายศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด (Mr.Chanawee Homtoey and Mr.Supanus Sacharattanakul, the founder of Shinkanzen Sushi) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ชินคันเซ็น ซูชิ (Shinkanzen sushi) มีจุดเริ่มต้นเกิดจากการเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นซูชิ เล็ก ๆ ในย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต โดยมีแนวคิดที่อยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารญี่ปุ่น ซูชิคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า สะอาด และมีมาตรฐาน ด้วยช่วงเวลานั้นร้านซูชิหาทานยาก และราคาสูง ทำให้ ชินคันเซ็น ซูชิ ได้รับความสนใจและไว้วางใจจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว จนเป็นแบรนด์อาหารญี่ปุ่นซูชิ ที่หลาย ๆ คนรู้จัก โดยกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มนักเรียน – นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มครอบครัว
สำหรับการเข้าร่วมธุรกิจกับ ซีอาร์จี เพราะเป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ระบบต่าง ๆ ในการบริหารร้านอาหารที่มีสาขาจำนวนมาก ซึ่งการที่ได้เข้าร่วมกับทาง ซีอาร์จี จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ต่อยอดธุรกิจ และสร้างโอกาสในการเติบโตขยายสาขาร่วมกันอย่างมั่งคง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังคาดหวังว่าการจับมือกันในครั้งนี้ จะสามารถช่วยพัฒนาระบบต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าว่า ชินคันเซ็น ซูชิ จะขยายสาขาไปทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย และสามารถสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี


