posttoday

ดิเอราวัณเดินหน้าขยายโรงแรมระดับ3-4ดาว

22 ธันวาคม 2553

ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เผยแผน 5 ปี ลงทุน 1 หมื่นล้านบาท รุกเปิดไอบิส คอร์ทยาร์ด เล็งดึงเชนอินเตอร์แบรนด์ใหม่ระดับ 3 ดาว รวมกว่า 10 แห่ง หวังปี 2558 มีEBITDA 2,500 ล้านบาท

ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เผยแผน 5 ปี ลงทุน 1 หมื่นล้านบาท รุกเปิดไอบิส คอร์ทยาร์ด เล็งดึงเชนอินเตอร์แบรนด์ใหม่ระดับ 3 ดาว รวมกว่า 10 แห่ง หวังปี 2558 มีEBITDA 2,500 ล้านบาท

นายกษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ผู้พัฒนาที่ดินและการลงทุนโรงแรมและรีสอร์ท เปิดเผยว่า แผนการลงทุนระยะ 5 ปี ระหว่างปี 2554-2558  บริษัทเตรียมใช้งบประมาณจำนวน 7,000-  1 หมื่นล้านบาท ขยายธุรกิจโรงแรมใน 2 ส่วน ได้แก่  1 การลงทุนก่อสร้างโรงแรมใหม่ และ 2 การเข้าซื้อกิจการเข้ามาบริหารต่อ โดยการลงทุนในครั้งนี้จะมุ่งขยายโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ภายใต้เชนไอบิส และคอร์ทยาร์ด มากกว่าการลงทุนโรงแรมระดับ 5 ดาว เพราะเริ่มประสบปัญหาล้นตลาด

ทั้งนี้บริษัทได้ศึกษาแนวทางการลงทุน พบว่าโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งด้านการลงทุนของผู้ประกอบการและความต้องการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทลงทุนและกำกับดูแลโรงแรมทั้งหมด 13 แห่ง จำนวน 3,347 ห้อง ภายใต้ 5 เชน 7 อินเตอร์แบรนด์ เช่น แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจดับบริว แมริออท กรุงเทพ ไอบิส คอร์ทยาร์ท เป็นต้น

สำหรับแผนการลงทุนดังกล่าว บริษัทตั้งเป้ามีจำนวนโรงแรมและจำนวนห้องพักมากเป็นอันดับหนึ่ง คาดว่าจะขยายโรงแรมอย่างน้อย 13 แห่ง  มีจำนวนห้องพักมากกว่า 5,000  ห้อง มีกำไรก่อนหักภาษี ในอีก 5 ปี จำนวน 2,500 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าเตรียมก่อสร้างไอบิส หัวหิน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไตรมาส 2 ปี 2555 โดยแนวทางการลงทุนในอนาคต บริษัทจะมุ่งไปยังตลาดที่มีโอกาสทางท่องเที่ยว ซึ่งหลังแผนการลงทุนระยะ 5 ปี เสร็จสิ้น อาจขยายการลงทุนออกสู่ต่างประเทศในอนาคต  เพื่อมุ่งผลักดันให้บริษัทเป็นกลุ่มการลงทุนที่มีจำนนห้องพักและจำนวนโรงแรมมากที่สุด

"บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีสายการบินโลว์คอสต์ แอร์ไลน์เปิดให้บริการหลายสาย ส่วนปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาแนวโน้มการคลี่คลายในทิศทางที่ดี การลงทุนธุรกิจโรงแรมต้องมองในระยะยาวข้างหน้า มากกว่าดูเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งที่ผ่านมาผลกระทบทางการเมืองทำให้บริษัทชะลอแผนการก่อสร้างโรงแรมไป 2 แห่ง"นายกษมา กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีรายได้ ราว 3,000 ล้านบาทเติบโต 7 % เทียบกับปีที่ผ่านมา  ปัจจุบันมีรายได้จากโรงแรมแกนด์ ไฮแอท เอราวัณ และเจดับบริว แมริออท สัดส่วน 60% โดยช่วงเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองย่านราชประสงค์ได้ปิดให้บริการโรงแรมแกรนด์ ไฮแอทฯ กว่า 2 เดือน แต่การเติบโตในครั้งนี้ เพราะได้เปิดโรงแรมไอบิสเพิ่มขึ้น 1-2 แห่ง พื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์จากอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ และอาคารเอราวัณ แบงค๊อก จำนวน 400 ล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าเติบโต 30%

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังเหตุฟุกุชิมะ 15 ปี