posttoday

ภาระดอกเบี้ยของการระดมทุนภาครัฐ เพิ่มหมื่นล้าน

17 มีนาคม 2564

ภาระดอกเบี้ยของการระดมทุนภาครัฐและเอกชนปี 2564 ราว 9,050-10,800 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (บอนด์ยีลด์ไทย) ทยอยปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2564 ตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โดยในส่วนของบอนด์ยีลด์ไทยอายุ 10 ปีปรับสูงขึ้นแตะจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 2.05% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 (สูงสุดในรอบ 2 ปี 8 เดือน) ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า บอนด์ยีลด์ไทยอายุ 10 ปียังมีโอกาสทรงตัวอยู่ในกรอบสูงต่อเนื่องเหนือระดับ 2.00% ในช่วงที่เหลือของปี 2564 และอาจทยอยขยับสูงขึ้นอีกในปีหน้า

ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ไทยในจังหวะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยยังไม่ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ อาจมีผลกระทบต่อต้นทุนการระดมทุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นับเป็นเม็ดเงินที่ทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นประมาณ 9,050-10,800 ล้านบาท

สำหรับในส่วนของภาครัฐนั้น ประเมินว่า ภาครัฐค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการช่องทางการระดมทุน โดยภาระดอกเบี้ยที่ขยับขึ้นไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักต่อฐานะและเสถียรภาพด้านการคลัง เพราะยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับกรอบวงเงินงบประมาณโดยรวม ขณะที่ในส่วนของภาคเอกชนนั้น ภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสำหรับบริษัทแต่ละรายมีความแตกต่างกันตามอันดับเครดิต สถานะทางการเงิน และความสามารถในการพลิกฟื้นรายได้ของแต่ละกิจการ ซึ่งหากสถานการณ์ของบริษัทกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจภาพรวมก็น่าจะสามารถรับมือกับแรงกดดันจากภาระในส่วนนี้ไปได้

แต่สำหรับผู้ออกหุ้นกู้บางบริษัท คงต้องยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ น่าจะยังเป็นข้อจำกัดในการฟื้นฟูกระแสรายได้ของกิจการ รวมถึงเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับการบริหารต้นทุนทางการเงิน และการมองหาทางเลือกการระดมทุนอื่นๆ เพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะนี้