posttoday

"จ่ายเงินประกันสังคม75บาท2เดือน" ช่วยอะไรแทบไม่ได้

27 มกราคม 2564

ผิดหวังหมดหวังไปตามๆ กัน สำหรับผู้ประกันตน 11 ล้านคน เมื่อรัฐออกมาช่วยเหลือแบบอมยิ้มไม่ออก

คณะรัฐมนตรี (ครม) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ เห็นชอบมาตรการของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้การจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเหลือ 0.5% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อช่วยผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งมีจำนวน 11 ล้านคน

การจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ปัจจุบันอยู่ที่ 3% ของเงินเดือน 15,000 บาท หรือ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 450 บาท เมื่อได้ลดเหลือให้จ่าย 0.5% ก็เท่ากับว่าเหลือจ่ายเดือนละไม่เกิน 75 บาท หรือคิดเป็นภาระที่ลดลงไป 375 บาท รวม 2 เดือน เท่ากับภาระจ่ายไป 750 บาท ส่งผลให้ผู้ประกันตน 11 ล้านคน ไม่พอใจรัฐบาลอย่างแรงว่าออกมาตรการอย่างนี้ไม่ต้องออกให้เสียเวลาเสียดีกว่า

ผู้ประกันตน กองทุนประกันสังคม มาตรา 33 เหมือนพลเมืองชั้นรองที่ได้รับการช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด ทั้งที่เป็นผู้อยู่ในระบบภาษี หลายคนจ่ายทั้งภาษี และจ่ายเงินประกันสังคม แต่กลับเป็นกลุ่มที่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐน้อยที่สุด

การระบาดของโควิด-19 รอบแรกปี 2563 รัฐบาลมีการจ่านเงินเยียวยาผ่านโครงการเราไม่ทิ้งกัน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 15,000 บาท ผู้อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ก็ไม่ได้ ทั้งที่ได้รับผลกระทบถูกลดเงินเดือน ลดเวลาทำงาน ทำให้รายได้ลดลงไปจำนวนมาก

การระบาดโควิดรอบ 2 ปี 2564 รัฐบาลออกมาตรการแจกเงิน 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวม 7,000 บาท ให้กับประชาชนประมาณอีก 31 ล้านคน ผู้อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จำนวน 11 ล้านคน ก็ชวดอีก

และยิ่งเอามาตรการที่รัฐบาลช่วยเหลือ ลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน 2 เดือน ลดภาระไปได้ 750 บาท เมื่อเทียบกับการแจกเงิน 7,000 บาท เป็นการช่วยเหลือที่แตกต่างกันเกือบ 10 เท่า

ทำไม่เป็นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้คำตอบและให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกันตน 11 ล้านคน ทำไมรัฐบาลไม่ลดภาระการจ่ายเงินสมทบแล้วให้ได้ 7,000 บาท เท่ากับผู้ที่เป็นอาชีพอิสระ 31 ล้านคน

นอกจากนี้ รัฐบาลยังควรนึกย้อนไปถึงการจ่ายเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็น 15,000 บาท ควรนำมาคิดทบต้นให้กับผู้ประกันตน 11 ล้านคนหรือไม่

ในเมื่อผู้ประกอบการอาชีพอิสระได้เยียวยา 2 รอบ รอบแรก 15,000 บาท รอบสองอีก 7,000 บาท รวมกันเป็น 22,000 บาท ผู้ประกันตนก็ควรได้รับการเยียวยาลดการจ่ายเงินประกันสังคมเท่ากับจำนวน 22,000 บาทหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน

แน่นอนว่า การทำดังกล่าวทำให้กองทุนประกันสังคมมีปัญหา ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ควรเอาเงินไปสนับสนุนให้กับกองทุนประกันสังคม รวมถึงยกเครื่องการบริหารของกองทุนประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน และรัฐบาลควรจ่ายเงินที่ต้องจ่ายสมทบให้กับกองทุนประกันสังคม 2.75% จริงๆ ไม่ใช่จ่ายแต่เป็นเพียงตัวเลขในบัญชีเท่านั้น ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งทำให้กองทุนประกันสังคมอ่อนแอมีปัญหา

การที่รัฐบาลอ้างว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ยังมีงานทำ ยังมีรายได้ เป็นคำตอบที่ใช้ไม่ได้กับภาวะไม่ปกติของการระบาดโควิดรอบ 1 รอบ 2 และอาจจะมีรอบ 3 และ 4 และ 5 เพราะผู้อยู่ในประกันสังคมตอนนี้จำนวนไม่น้อย ไม่มีรายได้แค่มีชื่อให้อยู่ในระบบรักษาสิทธิการรักษาและเบี้ยบำนาญเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากพล.อ.ประยุทธ์ และ นายสุชาติ เจ้ากระทรวงแรงงาน ยังเยียวยาผู้ประกันตนมาตรการ 33 แบบขอไปทีเช่นนี้ ทำให้รัฐบาลถูกตำหนิทุกวันไม่ได้หลับนอน

เพราะหลังจากมาตรการออกมา จะเห็นว่า ผู้ประกันตนไม่พอใจมาตรการนี้อย่างมาก มีการแสดงความคิดเห็นตำหนิรัฐบาลหลากหลาย เช่นช่วยก็เหมือนไม่ได้ช่วยเพราะจากเก็บเงินเรามาก แค่เก็บน้อยลงเท่านั้น ไม่ได้เป็นเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือหรือแจกเงินให้เลย

นอกจากนี้ แรงงานจำนวนไม่น้อยยังสะท้อนว่า ผู้ประกันต้นมาตรา 33 บางคนเงินเดือนน้อยต่อให้ไม่มีโควิดแทบรากเลือดอยู่แล้ว เงินเยียวยาไม่ได้ ถ้าไม่ใด้อะไรเลยแบบนี้คงต้องพากันหยุดงานไปประท้วงรัฐบาลแน่ๆ

แม้ว่าเป็นเสียงสะท้อนจากแรงงานไม่กี่คน แต่แรงงานมาตรา 33 ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดต่างจากนี้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่เศรษฐกิจอีกเรื่องที่รัฐบาลดูเหมือนผ่าทางตันไม่ได้ และกำลังถูกลากไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล ที่บริหารเศรษฐกิจและแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนล้มเหลว