ทุบโต๊ะ!!! โรงไฟฟ้าชุมชนเน้นพืชพลังงานใหม่ เมินควิกวินไม่ตอบโจทย์
"สุพัฒนพงษ์"แย้มเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนต้องเป็นโรงใหม่ส่งเสริมพืชพลังงาน สร้างงานเกษตรกร นำร่อง 100-150 เมกะวัตต์ ปิดทาง โครงการควิกวิน คาดเสนอกพช. เดือนต.ค.พร้อมเปิดรับสิ้นปีนี้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าชุมชนขณะนี้อยู่ระหว่างการทำรายละเอียดที่จะต้องตอบโจทย์ให้ประโยชน์ตกกับเกษตรกร โดยต้องเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ที่ส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานใหม่เพื่อเพิ่มการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยจะเร่งสรุปเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ภายในเดือนต.ค.นี้ และเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการนำร่อง 100-150 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับโครงการควิกวิน(ระยะเร่งด่วน)ที่ของเดิมเป็นโรงไฟฟ้าเก่าเดินหน้าทันทีเราคงไม่ใช้แต่เราจะทำนำร่องเลย 100-150 เมกะวัตต์ไปก่อนโดยจะต้องเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ และมีการปลูกพืชพลังงานใหม่เกิดขึ้นเช่น หญ้าเนเปียร์ กระถินณรงค์ เป็นต้น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ตอบโจทย์การสร้างงานหรือสร้างอาชีพเพิ่ม
นอกจากนี้ต้องไปดูว่าพื้นที่ปลูกมีได้มากน้อยเพียงใด เพราะหากต้องใช้พื้นที่มาก ทางเกษตรกรจะต้องรวมตัวกัน ไม่เช่นนั้นถ้าไปถึงมือคนเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่อย่างเดียวเกษตรกรไม่ได้อะไรก็คงไม่ตอบโจทย์
อย่างไรก็ตามโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนไม่ได้ปิดกั้นผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อมหากแต่จะต้องปรับให้เข้ากับเงื่อนไขใหม่เช่นเดียวกันกับบริษัท จำกัด(มหาชน) หากจะดำเนินการร่วมกับชุมชนก็ไม่ได้ปิดกั้นเช่นกันแต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามเกณฑ์
นายประเสริฐ สินสุชประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะเสนอแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขและเกณฑ์ต่างๆ ที่ได้ร่างไว้แล้วว่าจะมีการปรับปรุงหรือไม่อย่างไร ก่อนเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)และกพช.ต่อไป
" เงื่อนไขร่างไว้แล้วแต่จะต้องหารือกับทุกส่วนก่อน เบื้องต้นเชื้อเพลิงจะต้องปลูกไม้โตเร็ว และก๊าซชีวภาพที่มาจากพืชพลังงานเท่านั้น ส่วนของเดิมที่ให้ผสมผสานกับพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) ได้นั้นก็คงจะต้องตัดไป ในส่วนของเกษตรกรที่จะให้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์นั้นก็อาจจะเปลี่ยไปรับซื้อราคาเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรแทนแต่ค่าไฟจะเพิ่มหรือไม่คงจะต้องไปดูเทคโนโลยีด้วยเป็นต้น"นายประเสริฐกล่าว