posttoday

'SENA'กวาดกำไรไตรมาสองกว่า 200 ล้าน ลุ้นแบ็คล็อกพร้อมโอนปีนี้กว่า 5,000 ลบ.

26 สิงหาคม 2563

SENA โชว์ผลงานไตรมาส 2 /63 โต 92.8 % จับตาครึ่งปีหลังแบ็คล็อกพร้อมโอนกว่า 5,000 ลบ. ขณะที่โครงการเปิดใหม่หั่นเหลือ 6 โครงการ มูลค่า 6 พันล้านบาท จากพิษโควิด

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการหมู่บ้านโซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบรายแรกของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยไตรมาส 2/2563 (เม.ย.-มิ.ย.) ว่า ในภาพรวมสำหรับงวด 3 เดือน บริษัทและบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุน มียอดโอนกรรมสิทธิ์จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรายได้อื่นๆรวมเท่ากับ 1,758 ล้านบาท ทำให้มียอดโอนกรรมสิทธิ์และรายได้อื่นๆรวมเพิ่มขึ้น 694.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 65.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอด 1,064.2 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนของปี 2563 มียอดโอนกรรมสิทธิ์จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรายได้อื่นๆสะสมเท่ากับ 3,379.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,201.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 55.1 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอด 2,178.2 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในงวด 3 เดือน เท่ากับ 226.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.1 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 92.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในงวด 6 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 453.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 179.0 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 65.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 274.4 ล้านบาท

“กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่มียอดโอนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ประกอบด้วย โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง 939.5 ล้านบาทและโครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ ที่เริ่มมียอดโอนในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ 434.3 ล้านบาท ทำให้ในงวด 6 เดือน กิจการร่วมค้ามียอดโอนกรรมสิทธิ์รวมเท่ากับ 1,373.8 ล้านบาทเลยทีเดียว”ดร.เกษรากล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 แบ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการขายที่อยู่อาศัย(ไม่รวมบริษัทร่วมทุน) อยู่ที่ 717.9 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 54.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการแนวราบ คิดเป็นสัดส่วน 28.7 % คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 206 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 113.9 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 123.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ เสนาพาร์ค วิลล์ วงแหวน-รามอินทรา โครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี - สาย 5 โครงการนิช ไอดี บางแค ช็อปเฮ้าส์ โครงการเสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา โครงการเสนาวิลล์ ลำลูกกา-คลอง 6 และรายได้จากโครงการแนวราบในต่างจังหวัดอีก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการบูรพา บ่อวิน, โครงการ เดอะลิฟวิ่ง นารายา ,โครงการพราวทาวน์-บ่อวิน และ โครงการเสนาวิลล์ นาดี - อุดรธานี

'SENA'กวาดกำไรไตรมาสองกว่า 200 ล้าน ลุ้นแบ็คล็อกพร้อมโอนปีนี้กว่า 5,000 ลบ.

ส่วนรายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมไตรมาส 2 /2563 (ไม่รวมบริษัทร่วมทุน) คิดเป็นสัดส่วน 71.3% อยู่ที่ 511.9 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 139.2 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 37.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่จำนวน 372.7 ล้านบาท มาจากโครงการนิช ไอดี แอท ปากเกร็ด สเตชั่น,โครงการนิช โนโน สุขุมวิท - ปู่เจ้า ,โครงการนิช ไอดี สุขุมวิท 113 โครงการนิช โมโน รัชวิภา, โครงการนิช ไอดี เพชรเกษม - บางแค โครงการนิช ไอดี พระราม 2 – ดาวคะนอง, โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส รังสิต- ติวานนท์ และเดอะ คิทท์ ลำลูกกา - คลอง 2 ขณะที่รายได้จากค่าเช่า และ บริการในไตรมาส 2 อยู่ที่ 281.7 ล้านบาท ลดลงอยู่ที่ 208.7 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 42.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนั้นในกลุ่มธุรกิจโซลาร์มีรายได้ อยู่ที่ 10.5 ล้านบาท ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 48.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82.1 % ซึ่งแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ทำให้มีการเลื่อนการติดตั้งออกไปจากที่กำหนดไว้เป็นปลายปี 2563 แทน

ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าขายแล้วรอโอน (Backlog)รวมทั้งสิ้น จำนวน 11,497 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,863 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการของบริษัทร่วมทุน 4,867 ล้านบาทประกอบด้วย โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท- แบริ่ง ,โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ และ โครงการ นิช โมโน เจริญนคร และ โครงการคอนโดของบริษัทเสนาฯ 713 ล้านบาท ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และโครงการแนวราบของบริษัทเสนาฯ และบริษัทเสนา วานิช (โครงการต่างจังหวัด) อยู่ที่ 283 ล้านบาท

ดร.เกษรา กล่าวถึง แผนเปิดโครงการใหม่ของปี 2563 เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การตลาด และกำลังซื้อในปัจจุบัน ตามแผนเดิมทางบริษัทจะเปิด 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท ซึ่งได้มีการปรับแผนใหม่เหลือเปิด 6 โครงการ รวมมูลค่า 3,100 ล้านบาท ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 3 โครงการในช่วงไตรมาส 1 และอีก 3 โครงการที่จะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 63 ประกอบด้วย 1.เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน – คูคต (เฟส 2) 2.เสนา วีว่า เพชรเกษม พุทธมณฑลสาย 7 และ 3.เสนา คิทท์ เทพารักษ์-บางบ่อ(JV)

ข่าวล่าสุด

ไทย–กัมพูชา เปิดโต๊ะสามฝ่าย จีนหนุนบทบาทสันติภาพ หลังข้อตกลงหยุดยิงชายแดน