posttoday

เทนนินจากใบมันสำปะหลัง ช่วยเกษตรกรลดใช้สารเคมี

29 พฤศจิกายน 2553

แทนนิน (Tannin) สารทำให้เกิดรสฝาดในพืช ความเป็นพิษของแทนนินจะยับยั้งการเกิดเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารในกระเพาะสัตว์ ซึ่งยังพบในพืชหลายชนิด โดยแทนนินมีความสามารถในการป้องกันการเข้าทำลายของแบคทีเรีย เชื้อรา และแมลงกัดกิน เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของแทนนิน จึงทำให้มีผู้เชี่ยวชาญสนใจศึกษา แทนนิน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในงานหลากหลายด้าน

รศ.ดร.วัลลภ อารีรบ ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) กล่าวว่า สนใจศึกษาสารแทนนินจากประโยชน์ที่พบว่า หากเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง (สี่กระเพาะ) กินแทนนินเข้าไปมาก จะทำให้ความสามารถในการย่อยอาหารลดลง หรือประโยชน์ในแง่ของการฆ่าแบคทีเรีย นำมาใช้ใส่ยาสีฟัน และใช้เป็นยาสมานแผล

นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าแทนนินจากต่างประเทศ เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง ทำให้หนังสัตว์ไม่เน่าเปื่อย เป็นต้น ดังนั้นเมื่อพบว่าแทนนินมีคุณสมบัติหลายประการ จึงสนใจจะศึกษาสารชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นเริ่มนำ แทนนิน ทดสอบบำบัดน้ำเสียในโรงอาหารมหาวิทยาลัย โรงนม พบว่า สารสกัดแทนนินสามารถบำบัดน้ำเสียได้ดีที่ระยะเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อใส่สารสกัดแทนนินลงในสารละลายที่เป็นน้ำทิ้งแล้วตรวจสอบค่า BOD ในน้ำทิ้ง พบว่า มีค่าต่ำลง

สารสกัดแทนนินสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการจับตัวของตะกอนแขวนลอยในน้ำเสียให้ตกตะกอนได้ดี ทำให้น้ำใสขึ้น ดังนั้นหากนำแทนนินที่สกัดได้ไปใช้ประโยชน์ในการบำบัดน้ำเสียในโรงงานต่างๆ เช่น โรงงานรีดเหล็ก โรงานผลิตแบตเตอรี่ จะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้น้ำของโรงงาน รวมทั้งช่วยกำจัดกลิ่นได้ด้วย

พร้อมกันนี้ บังเอิญค้นพบว่า สารแทนนินสามารถยับยั้งการระบาดของเพลี้ยแป้ง เนื่องจากปลูกสบู่ดำไว้ เห็นว่ามีเพลี้ยแป้งเข้าทำลาย จึงนำแทนนินไปรด เมื่อเวลาผ่านไปพบว่าเพลี้ยแป้งที่เคยขึ้นหายไป จึงเก็บข้อมูลไว้ให้ทีมวิจัยช่วยกันวิเคราะห์ พบว่า สารตัวนี้ยังทำให้เพลี้ยแป้งไม่เข้ามากินอาหาร การเข้าทำลายของเพลี้ยแป้งลดลง

ขณะนั้นยังมีปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันสำปะหลัง จึงสนใจที่จะนำแทนนินเข้าไปทดสอบ โดยเลือกพืช คือ มันสำปะหลังมาสกัดแทนนิน เมื่อนำมันสำปะหลังมาสกัด จึงคิดว่าควรใช้ส่วนไหนของพืชชนิดนี้ ซึ่งมองเห็นว่าใบมันสำปะหลังเป็นส่วนเหลือทิ้ง หากสามารถนำมาสกัดเป็นแทนนินได้ เมื่อราคาพืชชนิดนี้ตกต่ำ น่าจะเป็นแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง

จากแนวคิดดังกล่าว งานวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดแทนนินกับเพลี้ยแป้งจึงเกิดขึ้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หลากหลายด้าน เบื้องต้นได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน บริษัท กิตติรัตนพรรณ ในโครงการการพัฒนาสารสกัดแทนนินจากใบมันสำปะหลังเพื่อการควบคุมแมลงศัตรูพืช และพัฒนาสารสกัดแทนนินในรูปที่บริสุทธิ์มากขึ้น สำหรับควบคุมการเจริญเติบโตของแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งช่วยให้ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้วัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งลดการพึ่งพาสารเคมีปราบศัตรูพืชจากต่างประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญ iTAP กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นได้ศึกษาในห้องปฏิบัติการ พบว่า สารสกัดแทนนินที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นที่ 1,500 ppm มีแนวโน้มส่งผลให้การเข้าทำลายส่วนของพืชลดลง 32.52% เมื่อนำไปทดลองการขับไล่เพลี้ยแป้งในสภาพไร่ ปรากฏว่า การใช้สารสกัดแทนนินที่ความเข้มข้น 1,0001,500 ppm ช่วยทำให้แปลงมันสำปะหลังสะอาด คือ เพลี้ยแป้งเข้าทำลายน้อย ต้นมันสำปะหลังแตกยอดใหม่ได้ดี ไม่หงิกงอ ลำต้นยืดยาวได้เป็นปกติ แตกทรงพุ่มได้ดีจึงเป็นความเข้มข้นที่เหมาะแก่การขับไล่เพลี้ยแป้ง

การเข้าทำลายแมลงลดลง แสดงว่าสารตัวนี้มีผลยับยั้งการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง ไม่ฆ่า แต่น้อยลง เพราะว่าสารตัวนี้ไม่เป็นอันตรายกับเรา สารเคมีอื่นๆ คนโดนสเปรย์ตาย ต้องใช้ปริมาณเพิ่มขึ้น เพราะว่ามันดื้อยาขึ้น แต่สารอินทรีย์ชนิดนี้ได้เปรียบเนื่องจากมีอยู่แล้วในธรรมชาติ แมลงไม่ปรับตัวแต่เบื่ออาหาร สารอินทรีย์นี้ดูดซึมเข้าไปในพืชได้ด้วย เราปกคลุมหน้าผิวของต้นด้วยแทนนินมันก็ขม ฝาด เพลี้ยไม่ชอบ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากใบมันสำปะหลัง โดยศึกษาปริมาณธาตุอาหารใบมันสำปะหลังที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว และที่ผ่านกระบวนการจากการสกัดสารแทนนินออกไปแล้วมาพัฒนาเป็นปุ๋ยอินทรีย์สูตรต่างๆ ที่เหมาะสมต่อระยะการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง เป็นต้น ผลที่ได้ คือ สามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้เพิ่มมูลค่าเป็นปุ๋ยอินทรีย์และลดต้นทุนการผลิต เป็นต้น

เมื่อการทำงานร่วมกับภาคเอกชนประสบความสำเร็จ รศ.ดร.วัลลภ จึงต้องการให้เกษตรกรนำความรู้การสกัดแทนนินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ต้องพึ่งยา สารเคมี หากใช้สารเคมีมากจะอันตรายกับชีวิต ส่งผลต่อกระทบกับการรักษา หากลดตรงนี้ก็เท่ากับเป็นการป้องกันโรค ขณะเดียวกันเกษตรกรสามารถใช้พืชที่มีอยู่อาจจะเปลือกไม้ ต้นไม้อะไรก็ได้ สกัดหาสารแทนนิน และบอกข้อมูลกลับมาหาผู้เชี่ยวชาญว่าได้ผลอย่างไรบ้าง ทีมวิจัยต้องการตรงนั้น คือ กลายเป็นงานวิจัยย่อยกระจายไปทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถหาสารแทนนินไปใช้ประโยชน์ได้มากในที่สุด

ข่าวล่าสุด

จบศึก AGM การบินไทย! ผู้ถือหุ้นไฟเขียวบอร์ด 15 คน คลังคุมเกมเกือบทั้งกระดาน