posttoday

เศรษฐกิจไทยยิ่งวันยิ่งทรุด หาจุดต่ำสุดไม่เจอ

18 พฤศจิกายน 2562

ถึงวันนี้คงไม่มีใครรวมถึงรัฐบาล ที่จะกล้าออกมาตกปากรับคำยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวถึงจุดต่ำสุดแล้ว

ถึงวันนี้คงไม่มีใครรวมถึงรัฐบาล ที่จะกล้าออกมาตกปากรับคำยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวถึงจุดต่ำสุดแล้ว

.....................................

โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2562 ขยายตัว 2.4% แม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2/2562 ที่ขยายตัว 2.3%

แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งปี 2562 แล้ว สศช. กลับคาดเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8% ซึ่งตัวเลขนี้ก็เป็นการปรับลดจากการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2/2562 เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้มากกว่า 3% สาเหตุสำคัญมาจากพิษสงครามการค้า กระทบการส่งออกของไทยรุนแรงคาดว่าปีนี้จะขยายตัวติดลบ 2%

นอกจากนี้ สศช. ยังมองว่าเศรษฐกิจปี 2563 ยังตัวได้ 2.7-3.7% ซึ่งมองได้ว่าเศรษฐกิจปีหน้ายังไม่ฟื้นจริง เพราะยังมีโอกาสสูงที่ขยายตัวได้ต่ำกว่า 3% เหมือนกับเศรษฐกิจปีนี้

ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สร้างความประหลาดใจด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.50% เหลือ 1.25% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ และค่าเงินบาทยังแข็งค่ากระทบการส่งออกไทยเพิ่ม ทำให้ธปท. ออกมาตรการผ่อนปรนให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศเพิ่มมากขึ้น หวังให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ากระทบกับการส่งออกลดลง และส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

ก่อนหน้าที่ ธปท. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายไม่นาน ธปท. ได้ปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้จาก 3.3% เหลือ 2.8% เพราะมองว่าการส่งออกขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาดไว้ โดยประเมินว่าการส่งออกของไทยจะติดลบ 1%  การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไม่ได้ผล การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลล่าช้า

ผ่านมาถึงวันนี้ ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะมองว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประมาณการ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าก่อนสิ้นปีนี้ ธปท. จะมีการลดคาดการณ์เศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้ต้องลุ้นระทึกว่า จะต่ำกว่าที่ สศช. ประกาศหรือไม่ และการส่งออกจะแย่กว่าหรือดีกว่า ที่สศช. ประเมินไว้

นอกจากนี้ยังต้องลุ้นว่า ธปท. จะคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ขยายตัวเหลือเท่าไร จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าว่าจะขยายตัวได้ 3.3%

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในส่วนของภาคเอกชน มองว่า เศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้และปีหน้า ยังขยายตัวได้ต่ำ โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า เศรษฐกิจปี 2562 และ 2563 จะขยายตัวได้ 2.8% โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกชะลอ ค่าเงินบาทแข็งทำให้การส่งออกปีนี้ติดลบถึง 2.5% การบริโภคสินค้าคงทนทั้งการซื้อบ้านรถยนต์ลดลง การใช้จ่ายเงินงบประมาณ 2563 ล่าช้า ทำให้เศรษฐกืจไทยยังขยายตัวได้ต่ำ

นอกจากนี้ เมื่อดูจาการเตือนของผู้บริการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่เดินสายเข้าพบรัฐบาลและหน่วยงานทางเศรษฐกิจ ก็เตือนให้ไทยเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยต้องมีการใช้มาตรการทางการคลังและการเงิน ยังเต็มกำลังและเหมาะสม เพื่อนำพาเศรษฐกิจไทยให้พ้นจากมรสุมเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าไปให้ได้

แม้แต่การแถลงตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของ สศช. ก็ได้ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลชัดเจนว่า รัฐบาลต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือไม่ถึง 2 เดือนของปีนี้ เพราะมาตรการที่ออกไปยังแรงไม่พอ หากไม่มีมาตรการเพิ่มเติม เศรษฐกิจปีนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะขยายตัวได้ไม่ถึง 2.6% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี หรือภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้

จากการประเมินล่าสุด บอกชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวได้อีก ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด เนื่องจากผลกระทบจากนอกประเทศรุนแรงกว่าที่คิดอยู่ตลอดเวลา ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นภายในประเทศก็ยังแรงไม่พอ ส่วนการเร่งลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน ก็ยังกระตุ้นไม่ขึ้น

รัฐบาลย้ำอยู่เสมอว่า เศรษฐกิจไทยจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องจริงไม่มีใครปฏิเสธ โดยเฉพาะตอนนี้รัฐบาลจะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร ว่ามีความสามารถทำงานเป็นทีมเพื่อบริหารเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวพ้นจากปากเหวได้ เพราะหากรัฐบาลเป็นจุดอ่อนของความไม่เชื่อมั่นเสียเอง เศรษฐกิจไทยก็ยิ่งวันยิ่งชะลอ หาจุดต่ำสุดไม่เจออย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้