กรมชลฯ ลงพื้นที่อุทกภัยลุ่มน้ำมูล-ชี จังหวัดอุบลฯ
เผยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอีสาน บางพื้นที่ต้นทางแม่น้ำเริ่มทยอยเข้าบ้านแล้ว เตรียมระดมชุดเคลื่อนที่ช่วยประชาชนถึงบ้าน
เผยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอีสาน บางพื้นที่ต้นทางแม่น้ำเริ่มทยอยเข้าบ้านแล้ว เตรียมระดมชุดเคลื่อนที่ช่วยประชาชนถึงบ้าน
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน เปิดเผยว่าศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยส่วนหน้าลุ่มน้ำมูล-ชี ได้ลงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง โดยวันนี้มาตรวจพื้นที่ลุ่มน้ำชี ที่เขื่อนธาตุน้อย จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ ซึ่งเขื่อนดังกล่าวเป็นตัวสุดท้ายก่อนน้ำชีจะลงสู่แม่น้ำมูล
โดยวันที่ 20 ก.ย.2562 อัตราการไหลของน้ำที่เขื่อนธาตุน้อยอยู่ที่ 1,480 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที หรือ 130 ล้านลบ.ม.ต่อวัน จากนี้จะไหลผ่านไปลงแม่น้ำมูลที่อ.เมือง จ.อบุลฯ ทำให้ระดับน้ำที่ธาตุน้อยสูงกว่าระดับกักเก็บ 2 เมตร และสูงกว่าตลิ่ง 2.70 เมตร หากเทียบกับวันที่ 11ก.ย. 2562 ปริมาณน้ำสูงสุดที่เขื่อนธาตุน้อยคือ 3.40 เมตร โดย 10 วันที่ผ่านมาน้ำลดลง 70 เซนติเมตร ถือเป็นสัญญาที่ดีว่าน้ำชี เริ่มลดลงมาตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์น้ำที่สถานี M 7 จ.อุบลฯ เมื่อเวลา 12.00 นระดับสูงกว่าตลิ่ง 3.03 เมตร อัตราการไหลอยู่ที่ 4,020 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 430 ล้านต่อวัน กรมชลฯได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดลำน้ำมูลถึงอ.โขงเจียม รวม 260 เครื่องเพื่อเร่งดันน้ำลง แม่น้ำโขง โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงต่ำกว่าระดับแม่น้ำมูลประมาณ 2.70 เมตร เป็นสัญญาที่ดีที่น้ำไหลลงแม่น้ำโขงดีต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามฝนที่ตกลงมาเติมในจังหวัดอุบลฯเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำในแม่น้ำมูลแต่อย่างใด
"ขณะนี้บางพื้นที่ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ทั้งกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด บางจุดที่น้ำเริ่มกลับสู่ตลิ่งประชาชนเริ่มเข้าบ้านเรือนได้แล้วบางจุด และจากสถานการณ์ในขณะนี้หากไม่มีฝนตกเข้ามาเติมอีกคาดว่าน้ำจะกลับสู่ตลิ่งได้ในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ตามที่กรมชลฯได้ประเมินไว้ และในวันที่ 23 กันยายน รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเปิดกิจกรรมจิตอาสาดูแลประชาชน ทั้งการฟื้นฟูบ้านเรือนและซ่อมแซมบ้านเรือนและเครื่องมือเครื่องจักรให้กับประชาชน โดยชุดเคลื่อนที่เข้าไปยังชุมชนต่างๆ" นายสัญญากล่าว
นอกจากนั้นกรมได้เตรียมแผนวางเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ สำหรับช่วยเหลือประชาชนในการระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำขังหรือพื้นที่ลุ่มอีกด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าในบางพื้นที่
)
เผยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอีสาน บางพื้นที่ต้นทางแม่น้ำเริ่มทยอยเข้าบ้านแล้ว เตรียมระดมชุดเคลื่อนที่ช่วยประชาชนถึงบ้าน
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน เปิดเผยว่าศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยส่วนหน้าลุ่มน้ำมูล-ชี ได้ลงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง โดยวันนี้มาตรวจพื้นที่ลุ่มน้ำชี ที่เขื่อนธาตุน้อย จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ ซึ่งเขื่อนดังกล่าวเป็นตัวสุดท้ายก่อนน้ำชีจะลงสู่แม่น้ำมูล
โดยวันที่ 20 ก.ย.2562 อัตราการไหลของน้ำที่เขื่อนธาตุน้อยอยู่ที่ 1,480 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที หรือ 130 ล้านลบ.ม.ต่อวัน จากนี้จะไหลผ่านไปลงแม่น้ำมูลที่อ.เมือง จ.อบุลฯ ทำให้ระดับน้ำที่ธาตุน้อยสูงกว่าระดับกักเก็บ 2 เมตร และสูงกว่าตลิ่ง 2.70 เมตร หากเทียบกับวันที่ 11ก.ย. 2562 ปริมาณน้ำสูงสุดที่เขื่อนธาตุน้อยคือ 3.40 เมตร โดย 10 วันที่ผ่านมาน้ำลดลง 70 เซนติเมตร ถือเป็นสัญญาที่ดีว่าน้ำชี เริ่มลดลงมาตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์น้ำที่สถานี M 7 จ.อุบลฯ เมื่อเวลา 12.00 นระดับสูงกว่าตลิ่ง 3.03 เมตร อัตราการไหลอยู่ที่ 4,020 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 430 ล้านต่อวัน กรมชลฯได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดลำน้ำมูลถึงอ.โขงเจียม รวม 260 เครื่องเพื่อเร่งดันน้ำลง แม่น้ำโขง โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงต่ำกว่าระดับแม่น้ำมูลประมาณ 2.70 เมตร เป็นสัญญาที่ดีที่น้ำไหลลงแม่น้ำโขงดีต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามฝนที่ตกลงมาเติมในจังหวัดอุบลฯเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำในแม่น้ำมูลแต่อย่างใด
"ขณะนี้บางพื้นที่ในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ทั้งกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด บางจุดที่น้ำเริ่มกลับสู่ตลิ่งประชาชนเริ่มเข้าบ้านเรือนได้แล้วบางจุด และจากสถานการณ์ในขณะนี้หากไม่มีฝนตกเข้ามาเติมอีกคาดว่าน้ำจะกลับสู่ตลิ่งได้ในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ตามที่กรมชลฯได้ประเมินไว้ และในวันที่ 23 กันยายน รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะเปิดกิจกรรมจิตอาสาดูแลประชาชน ทั้งการฟื้นฟูบ้านเรือนและซ่อมแซมบ้านเรือนและเครื่องมือเครื่องจักรให้กับประชาชน โดยชุดเคลื่อนที่เข้าไปยังชุมชนต่างๆ" นายสัญญากล่าว
นอกจากนั้นกรมได้เตรียมแผนวางเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ สำหรับช่วยเหลือประชาชนในการระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำขังหรือพื้นที่ลุ่มอีกด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าในบางพื้นที่


