posttoday

ร้องเรียนแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์เบี้ยวผู้โดยสาร ผ่าน QR Code พ่วงโทษหนักสุดเลิกใบขับขี่

08 สิงหาคม 2562

กรมขนส่งฯเล็งเปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแสวินมอเตอร์ไซค์-แท็กซี่เอาเปรียบผู้โดยสาร ผ่าน QR Code พร้อมเพิ่มบทลงโทษพักใช้-เพิกถอนใบขับขี่

กรมขนส่งฯเล็งเปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแสวินมอเตอร์ไซค์-แท็กซี่เอาเปรียบผู้โดยสาร ผ่าน QR Code พร้อมเพิ่มบทลงโทษพักใช้-เพิกถอนใบขับขี่

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดทำใบขับขี่ดิจิทัลให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและผู้ขับขี่แท็กซี่ในระบบ ซึ่งมีฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนอยู่แล้ว รวมทั้งจัดทำ QR Code บนเสื้อของวินมอเตอร์ไซด์และในรถแท็กซี่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารสามารถสแกนข้อมูลผู้ขับขี่ แต่ละรายผ่านมือถือเพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมการขับขี่ ตลอดจนสามารถสแกนเพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ในทันทีแบบ real-time ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเอาผิดผู้ที่ชอบเอาเปรียบประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการกำกับดูแลผู้ขับขี่สาธารณะ

สำหรับแนวคิดการให้รางวัลนำจับสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลพฤติกรรมความไม่เหมาะสมสำหรับผู้ขับขี่ นั้น เป็นอีกประเด็นที่ ขบ.อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ต้องไปพิจารณารายละเอียด ว่าจะสามารถบรรรจุไว้ในพ.ร.บ.ขนส่งฉบับใหม่ได้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งมาตรการแบบนี้ทางผู้ขับขี่รถสาธารณะไม่อยากให้นำมาใช้ แต่อีกด้านก็เป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการความเข้มงวดเรื่องเอาเปรียบผู้โดยสาร ดังนั้นจึงต้องไปพิจาณราอีกครั้งหนึ่งก่อนเสนอร่างพ.ร.บ.ขนส่งฯฉบับใหม่เข้าสู่รัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ

อย่างไรก็ตามด้านกรุงเทพมหานครที่เปิดโอกาสให้ประชาชนช่วยกันร้องเรียนโดยการถ่ายภาพผู้ขับขี่บนทางเท้าเพื่อแลกกับรางวัลนำจับนั้นเป็นกฎหมายที่เพิ่งออกมาบังคับใช้หรือเป็นกฎหมายใหม่จึงสามารถระบุเงื่อนไขดังกล่าวลงไปในตัวบทได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าปัจจุบันตัวบทลงโทษของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและผู้ขับขี่แท็กซี่ถูกบังคับใช้ภายใต้มาตรฐานเดียกวัน กล่าวคือ เริ่มจากโทษปรับ หากพบกระทำผิดซ้ำก็จะมีการพักใบขับขี่พร้อมเข้าคอร์สอบรมการขับขี่กับกรมการขนส่งทางบกและหากกระทำผิดซ้ำซากก็จะมีการเพิกถอนใบขับขี่

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่าสำหรับบทลงโทษของกรมการขนส่งทางบกในฐานความผิด อาทิ ปฏิเสธผู้โดยสาร คิดราคาเกินอัตราที่กำหนด ทิ้งผู้โดยสารกลางทางและใช้มือถือขณะขับขี่ เป็นต้น หากทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและอบรม ครั้งที่ 2 จะถูกปรับ พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และอบรม ครั้งที่ 3 จะถูกปรับ พักใช้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และอบรม โดยโทษปรับนั้น จะปรับไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนบทลงโทษกรณี และหากกระทำผิดซ้ำซากจะพิจารณาเพิกถอนใบขับขี่สาธารณะ

ด้านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าภายหลังการประชุมหารือร่วมกับ กลุ่มตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ว่า จะให้กลุ่มรถจักรยานยนต์ฯจะเข้ามาเป็นคณะทำงานร่วมกับทางกรมการขนส่งทางบกในการพิจารณาทางกฎหมายเพื่อดำเนินการกรณีบริษัทเอกชนที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นผิดกฏหมาย รวมถึงเชิญตัวแทนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างๆมาเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ได้สั่งการให้ทางกรมการขนส่งทางบกประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องแอพพลิเคชั่นที่กระทำผิดกฎหมาย ว่า การดำเนินการของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นการดำเนินการถูกต้องหรือไม่และจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนการจัดทำแอพพลิเคชั่นนั่นทางกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะก็ไม่ได้ขัดข้องและจะมีการยื่นความเห็นในการดำเนินการจัดทำแอพพลิเคชั่นที่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการบังคับควบคุมของกรมการขนส่งทางบก

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้หารือว่าจะนำรายละเอียดมาดำเนินการโดยมีกรอบระยะเวลาในการจัดทำ 1 เดือน ต้องได้ข้อสรุป ขณะที่ในรื่องของสถานที่จุดจอดของวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะนั้น จะต้องแก้ไขเพื่อไม่ให้ขัดกับระเบียบของกรุงเทพมหานครในการใช้ทางเท้า โดยให้กรมการขนส่งทางบกไปสำรวจพื้นที่สาธารณะเพื่อสร้างเป็นจุดจอดทั้งหมดของวินขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในกรุงเทพมหานครได้หมด รวมถึงได้มีการหารือเกี่ยวกับรัศมีที่จำกัดไม่ให้แอพพลิเคชั่นไปรับผู้โดยสารตัดหน้าวินขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเบื้องต้นได้มีการให้ไปศึกษาระยะรัศมีให้ชัดเจนด้วย

 

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท