posttoday

ธุรกิจขนส่งสะเทือน ปมยาเสพติด ไปรษณีย์คุมเข้มรับส่งพัสดุ

30 มิถุนายน 2562

จากกรณีคดีกล่องพัสดุยาเสพติดส่งไปที่บ้านของนายตำรวจระดับสารวัตร และบุคคลอื่นตามที่เป็นข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้แต่ละคดีจะเริ่มคลี่ คลายเป็นลำดับ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามและสืบค้น ต้นทางของพัสุดที่นำมาส่งผ่านไปรษณีย์ก็ตาม แต่ก็เกิดคำถามข้อสงสัย ตลอดจนความกังวล ต่อการรับพัสดุทางไปรษณีย์จากนี้ไปปลอดภัยแค่ไหน หากต้องรับพัสดุอยู่หน้าบ้านของตัวเองก็โดนตำรวจเข้าชาร์ททันที จะเกิดกรณีการกล่าวอ้างบุคคลตามที่อยู่ เพื่อส่งยาเสพติดปลายทางหรือไม่

จากกรณีคดีกล่องพัสดุยาเสพติดส่งไปที่บ้านของนายตำรวจระดับสารวัตร และบุคคลอื่นตามที่เป็นข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้แต่ละคดีจะเริ่มคลี่ คลายเป็นลำดับ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามและสืบค้น ต้นทางของพัสุดที่นำมาส่งผ่านไปรษณีย์ก็ตาม แต่ก็เกิดคำถามข้อสงสัย ตลอดจนความกังวล ต่อการรับพัสดุทางไปรษณีย์จากนี้ไปปลอดภัยแค่ไหน หากต้องรับพัสดุอยู่หน้าบ้านของตัวเองก็โดนตำรวจเข้าชาร์ททันที จะเกิดกรณีการกล่าวอ้างบุคคลตามที่อยู่ เพื่อส่งยาเสพติดปลายทางหรือไม่

ปัจจุบันการส่งพัสดุ มีช่องทางให้เลือกมากมาย หลังธุรกิจอีคอมเมิร์ช มีการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นของบริษัทเอกชนทั่วไป และจากไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นธุรกิจขนส่งกำลังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ในทางที่ผิดกฏหมาย และอาจทำลายความ เชื่อมั่นลงได้ ดังนั้นธุรกิจขนส่งจึงจำเป็นต้องคุมเข้มกับการให้บริการรับส่งพัสดุให้มากกว่าปกติ ซึ่งถือเป็นมาตการป้องกันในขั้นแรก ตั้งแต่ตรวจสอบ บัตรประชาชนผู้นำส่งพัสดุ การสอบถามถึงสินค้า รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในพื้นที่ที่ให้บริการ

สำหรับบริษัทไปรษณีย์ไทย มีสถานะเป็นหน่วยงานรัฐวิสากิจ และภารกิจหลักในการนำส่งพัสดุ เอกสาร และจดหมาย โดยนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กล่าวไว้ว่า มาตรการตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายยาเสพติดนั้น ทางไปรษณีย์ไทย มีมาตรการห้ามฝากส่งสิ่งของต้องห้ามทางไปรษณีย์ ใน 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไว ไฟ

5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งนี้การฝากส่งยาเสพติด และอาวุธทางไปรษณีย์เป็นการกระทำที่ “ผิดกฎหมาย” เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามฝากส่งตามพระราชบัญญัติ ไปรษณีย์ พ.ศ.2477 และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนส่งยาเสพติด อาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้น ทางไปรษณีย์นั้น ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ และสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปได้อย่างแน่นอน

ธุรกิจขนส่งสะเทือน ปมยาเสพติด ไปรษณีย์คุมเข้มรับส่งพัสดุ

ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายที่เคร่งครัดดำเนินไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับ มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยการให้ผู้ใช้บริการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งก่อนการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ ที่จะสามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป นอกจากนั้น ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตลอดจนการใช้เครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบ X-ray ณ ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ

ส่วนเครื่องมือในการตรวจสอบยาเสพติด ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีกระบวนการตรวจสอบ 2 แนวทางคือ 1. การเปิด/แกะหีบห่อพัสดุ และ 2. ใช้สุนัข ตำรวจดมกลิ่นยาเสพติด แต่ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ไม่สามารถกระทำการเปิดสิ่งของฝากส่งของประชาชน เพื่อตรวจสอบสิ่งของฝากส่งภายในได้ เนื่อง จากเป็นไปตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477

นอกจากนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ตรวจสอบบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการทางไปรษณี 100% เพราะในขั้นตอนการฝากส่งประชาชนจะต้องแสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง หากในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ได้เตรียมหลักฐานประจำตัวมาในขณะฝากส่ง ทางไปรษณีย์ไทย มีความจำเป็นต้องขอปฏิเสธการรับฝาก จนกว่าจะมีหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการฝากส่งสิ่งของเข้าสู่ระบบไปรษณีย์ต่อไป

ธุรกิจขนส่งสะเทือน ปมยาเสพติด ไปรษณีย์คุมเข้มรับส่งพัสดุ

นางสมร กล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณการใช้บริการทางไปรษณีย์ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งพัสดุหรือจดหมายต่อวัน มีปริมาณเฉลี่ยกว่า 8 ล้านชิ้นต่อวัน (ข้อมูลอัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม 2561) ซึ่งในกรณีการบรรจุหีบห่อของไปรษณีย์มีนโยบายให้ประชาชนใช้กล่องพัสดุที่ได้มาตรฐาน ซึ่งกล่องพัสดุของไปรษณีย์ไทยได้มาตรฐานตามสากล

 

ข่าวล่าสุด

Samsung ผนึก Google Gemini เผยโฉมครัว AI สุดล้ำที่ CES 2026