เร่งร้านค้าติดแอปถุงเงินประชารัฐ รับเงินกระตุ้นศก.
กรมบัญชีกลางขยายการติดตั้ง Application ถุงเงินประชารัฐ กระตุ้นการใช้จ่ายกว่า 1.32 หมื่นล้านบาทเข้าระบบเศรษฐกิจ
กรมบัญชีกลางขยายการติดตั้ง Application ถุงเงินประชารัฐ กระตุ้นการใช้จ่ายกว่า 1.32 หมื่นล้านบาทเข้าระบบเศรษฐกิจ
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการรับสมัครร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยการติดตั้งเครื่อง EDC จำนวน 34,221 เครื่อง และการใช้งานผ่าน Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ ตั้งแต่ก.ค. 2561 - 22 เม.ย. 2562 ซึ่งมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการ 23,700 ร้านค้า จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100,000 ร้านค้า
ดังนั้น เพื่อขยายจำนวนร้านค้าให้เป็นไปตามเป้าหมาย ครอบคลุมร้านค้าต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค จึงได้ให้สำนักงานคลังจังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศ และในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 50 เขต ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย บริษัททีโอที และกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ไปยังตลาดและชุมชนต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ชี้แจงร้านค้าทั่วไปในการสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีช่องทางการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ทั้งนี้ ได้ขยายการรับชำระสินค้าไปยังร้านค้าต่าง ๆ ในตลาด เช่น ร้านอาหารตามสั่ง ร้านขายอาหารสด ร้านขายผักและผลไม้ เป็นต้น เพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.6 ล้านราย โดยการใช้จ่ายผ่าน Application ถุงเงินประชารัฐ สามารถใช้ได้ทั้งวงเงินและ e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ผู้ถือบัตรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 ดังนี้
1. เงินช่วยค่าชุดนักเรียน จำนวน 2.7 ล้านราย รายละ 500 บาทต่อบุตร 1 คน (จ่ายครั้งเดียววันที่ 8 พ.ค. 2562) เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,350 ล้านบาท
2. เงินช่วยค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยให้เกษตรกร จำนวนกว่า 4.1 ล้านราย รายละ 1,000 บาท (จ่ายครั้งเดียววันที่ 8 พ.ค. 2562) เป็นจำนวนเงินประมาณ 4,100 ล้านบาท
3. เงินช่วยผู้พิการ จำนวน 1.16 ล้านราย รายละ 200 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค. - ก.ย. 2562 โดยจะจ่ายทุกวันที่ 9 ของเดือน (เริ่มจ่ายวันที่ 9 พ.ค. 2562 เป็นเดือนแรก) เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,160 ล้านบาท
โดยทั้ง 3 รายการข้างต้น จะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ e-Money
4. เพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็น 500 บาท จำนวน 2 เดือน (เดือนพ.ค. และมิ.ย. 2562) เป็นจำนวนเงินประมาณ 6,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ มาตรการตามนโยบายรัฐบาลดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ประมาณ 1.32 หมื่นล้านบาท
น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยผ่าน Application ถุงเงินประชารัฐ อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นผลคือร้านค้าต่าง ๆ ลงทะเบียนสมัครใช้ Application ถุงเงินประชารัฐ เพื่อรับชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าขายสินค้าได้มากขึ้นด้วย จึงขอเชิญชวนร้านค้าที่เป็นร้านค้าทั่วไปในตลาดและชุมชน รวมทั้งร้านขายปุ๋ยและร้านขายชุดนักเรียนทั่วประเทศ สมัครใช้ Application ถุงเงินประชารัฐ เพื่อรับชำระค่าสินค้าจากวงเงินและ e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ทั่วทุกภูมิภาค


