‘อีเอ’พลิกโฉมเจ้าพระยา ส่งเรือไฟฟ้ายกระดับคนกรุง
“เรือ” ถือเป็นยานพาหนะที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน
“เรือ” ถือเป็นยานพาหนะที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปทำให้คนไทยมียานพาหนะอย่างอื่นเข้ามาอำนวยความสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เครื่องบิน หรือรถไฟฟ้า แต่เรือก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งในยานพาหนะที่คนไทยเลือกใช้ในการเดินทาง และเพื่อให้คนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใช้เรือที่มีความสะดวกสบายทันสมัยมากขึ้น
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA บริษัทพลังงานทางเลือก และผู้นำแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน รายใหญ่ของประเทศไทย และบริษัท พลังงานมหานคร บริษัทในเครือ EA ได้พลิกโฉมเรือรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา จากเรือที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเรือไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยพลังแบตเตอรี่
นอกจากนี้ ภายในเรือยังเอาใจผู้โดยสารด้วยการติดแอร์ ปรับรูปโฉมเรือให้มีความสวยงาม สะอาด ปลอดภัย โคลงเคลงน้อย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ โดยในส่วนของเรือลำแรกที่จะวิ่งให้บริการรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าน้ำนนทบุรี ไปท่าน้ำวัดราชสิงขร ระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตร จะเริ่มปลายปี 2562 นี้
อมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA กล่าวว่า เรือไฟฟ้าที่จะนำมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาจากท่าน้ำนนทบุรี ไปท่าน้ำวัดราชสิงขรนั้น จะมีระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 40 นาที เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยในปี 2562 นี้ คาดว่าจะพัฒนาเรือไฟฟ้าออกมาให้บริการได้ประมาณ 20 ลำ จากแผนการลงทุนสร้างเรือรวม 54 ลำ รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งภายในเดือน ก.พ. คาดว่าจะพัฒนาเรือไฟฟ้าและนำมาเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 54 ลำ
หลังจากนำเรือไฟฟ้ามาเปิดให้บริการ EA มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องของการยกระดับความสะดวกสบายด้วยการติดแอร์ เน้นความสะอาด และการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย เพราะเรือไฟฟ้าทำให้เกิดคลื่นน้อยทำให้ผู้โดยสารในเรือเกิดความโคลงเคลงน้อยลง อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนด้านพลังงาน เพราะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ประจุอยู่ในแบตเตอรี่ขนาด 800 กิโลวัตต์ชั่วโมง เติมพลังงานจากการใช้เครื่องชาร์จ EA Anywhere
อีกหนึ่งสิ่งที่ EA นำมาเป็นจุดขายสำหรับเรือไฟฟ้าต้นแบบนี้ คือ การออกแบบและพัฒนาขึ้นมาโดยคนไทย ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ของกลุ่ม EA ที่อยู่ระหว่างเตรียมสร้างโรงงานแห่งใหม่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งเป็นของไทยทั้งหมด
อมร กล่าวต่อว่า การก้าวเข้าสู่ธุรกิจให้บริการเรือไฟฟ้านี้เป็นการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่มาเสริมการให้บริการคมนาคมทางน้ำต่อเนื่องหลังจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า MINE มาแล้ว และยังสามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ประเภทอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย
ข้อดีอย่างมากของการขับเคลื่อนยานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้านี้ คือ จะไม่มีไอเสีย หรือเขม่าควัน และเสียงเบามาก จึงช่วยลดปัญหามลพิษโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นจะบรรเทาลงไปอย่างมาก การปรับเปลี่ยนรูปโฉมเรือเป็นไฟฟ้าพร้อมกับติดแอร์และออกแบบให้ทันสมัยและปลอดภัยนี้ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจเมื่อมาประเทศไทย
สำหรับความกว้างของตัวเรือไฟฟ้าที่ EA จะนำมาให้บริการในครั้งนี้จะมีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 24 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 200 คน และในช่วงเวลาเร่งด่วนจะเพิ่มรอบความถี่ในการให้บริการเป็นทุกๆ 5 นาที และสามารถเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบคมนาคมขนส่งไฟฟ้าของกรุงเทพมหานครได้ครบวงจร
อมร กล่าวอีกว่า ในส่วนของราคาโดยสารนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเคาะออกมาว่าจะอยู่ในระดับไหน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีความแตกต่างจากราคาเรือโดยสารที่ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน
นอกจากจะสร้างเรือของตัวเองทั้ง 54 ลำ วิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว EA ยังรับจ้างสร้างเรือไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการเรือรายอื่นในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย หากมีความสนใจจะเปลี่ยนจากเรือยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเรือไฟฟ้า ซึ่งหลังจากวิ่งให้บริการโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาไประยะหนึ่ง EA ก็มีแผนที่จะพัฒนาเรือท่องเที่ยวเข้ามาเปิดให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย รวมไปถึงการนำเรือไฟฟ้าเข้าไปให้บริการภายในคลองแสนแสบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคลองสำคัญที่ปัจจุบันคนกรุงเทพฯ ยังนิยมใช้เดินทางเพื่อหนีรถติด


