กาแฟดงมะไฟ สูตรพิเศษของโคราช

โดย: สมาร์ทฟาร์ม

การสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว จะเป็นแรงดึงดูดสำคัญให้แก่แบรนด์สินค้าของไทย โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) แสดงถึงการมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ รวมถึง กาแฟไทย ที่มีหลายพื้นที่ปลูกหลายแห่งและได้รับจีไอหลายแห่ง รวมถึงกาแฟดงมะไฟของ จ.นครราชสีมา พร้อมมีการพัฒนาและสร้างแบรนด์กาแฟสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

“ทัศนีย์ เมืองแก้ว” รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า “กาแฟดงมะไฟ” ได้รับการจดขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือจีไอ ตั้งแต่ช่วงปี 2559 แล้ว ล่าสุด กาแฟดงมะไฟ ได้รับรางวัลมาตรฐาน “SME Start up” ในโครงการพัฒนาสู่สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) มาแล้ว

จากการสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา (สศท.5) พบว่าแหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญของ จ.นครราชสีมา อยู่ใน อ.วังน้ำเขียว และ อ.สูงเนิน นิยมปลูกกาแฟพันธุ์อราบิกา โดย อ.วังน้ำเขียว จะเป็นการผลิตแบบเกษตรกรรายใหญ่ในรูปแบบบริษัทเอกชน ส่วน อ.สูงเนิน นิยมปลูกในพื้นที่หมู่บ้านดงมะไฟ ต.มะเกลือเก่า ที่อยู่ในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนดงมะไฟ และมีการเริ่มปลูกกาแฟเมื่อปี 2545 และดำเนินการมาอย่างจริงจังจนกระทั่งเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ “กาแฟดงมะไฟ” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านการปลูกที่มีการเก็บเกี่ยวอย่างมีคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน

ส่วนทางด้านภูมิศาสตร์ พื้นที่กาแฟที่ปลูกใน จ.นครราชสีมา จะอยู่ที่ระดับความสูง 400-700 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยพื้นที่โดยรอบจะเป็นผืนป่าแหล่งต้นน้ำลำธารทำให้กาแฟดงมะไฟ มีอัตลักษณ์ รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม และที่สำคัญ มีระดับสารกาเฟอีน 1% หรือมีความเข้มข้นของกาเฟอีนระดับต่ำ เป็นผลดีต่อผู้ที่ชื่นชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ

อีกทั้งการนำกาแฟมาปลูกในพื้นที่นี้สามารถสร้างป่าต้นน้ำลำธารที่ดี สร้างงานสร้างรายได้ สร้างแหล่งเรียนรู้และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้ นอกจากนี้ สถานที่ปลูกกาแฟดงมะไฟ ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะ คือ พิธีรับขวัญแม่กาแฟที่จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน พ.ย. จึงส่งผลต่อทั้งชุมชนและช่วยสร้างแหล่งท่องเที่ยวแบบยั่งยืนให้กับชุมชนอีกทาง

“ทัศนีย์” กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการเพาะปลูกกาแฟใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา เลย อุดรธานี และชัยภูมิ โดยผลพยากรณ์ปี 2562 (ปีเพาะปลูก 2561/2562) ข้อมูล ณ เดือน ธ.ค. 2561 คาดว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเนื้อที่ให้ผลจำนวน 1,846 ไร่ ผลผลิต 116 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 63 กิโลกรัม/ไร่ จ.นครราชสีมา มีเนื้อที่ให้ผลมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 825 ไร่ หรือ 45% ให้ผลผลิต 56 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 68 กิโลกรัม/ไร่

นอกจากนี้ หากกลุ่มเกษตรกรหรือผู้บริโภคที่สนใจข้อมูลด้านการผลิตและการตลาดสินค้ากาแฟ หรือพืชเศรษฐกิจอื่นที่สำคัญในจังหวัด สามารถขอข้อมูลได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจกาแฟดงมะไฟ เข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.dongmafaicoffee.com

ถือได้ว่า “กาแฟ” กำลังเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย ที่มีการปลูกในพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ละพื้นที่ต่างให้จุดเด่นของผลผลิตและรสชาติกาแฟแตกต่างกัน อีกทั้งแนวโน้มความต้องการดื่มกาแฟจากลูกค้าทั้งในประเทศและตลาดโลกมีเพิ่มขึ้นในทุกปี จะเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันสร้างแบรนด์กาแฟไทยแท้ ให้มีการเติบโตในตลาดโลกได้ในระยะยาว