ดุสิตดีทู อ่าวนาง โรงแรมกลางเขาใกล้ทะเล
จุดชมพระอาทิตย์ตกในกระบี่ต้องชมที่อ่าวนาง
โดย นิทรา ราตรี
จุดชมพระอาทิตย์ตกในกระบี่ต้องชมที่อ่าวนาง ตะวันดวงโตจะลับขอบน้ำและทิ้งแสงสุดท้ายไว้อาบท้องฟ้า ซึ่งจะดีแค่ไหนถ้าได้ดื่มด่ำในห้องพักกับคนรักที่ดุสิตดีทู อ่าวนาง โรงแรมบนเนินเขาที่กลายเป็นจุดชมวิวสุดโรแมนติกให้เอนกายชมวิวบนเตียงนุ่มในพื้นที่ส่วนตัว
โรงแรมน้องใหม่เพิ่งเปิดให้บริการวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริการห้องพัก 173 ห้อง ประกอบด้วยห้องดีไลท์ ขนาดกะทัดรัด 29 ตร.ม. เหมาะกับนักเดินทางรุ่นใหม่ที่ชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ในการผจญภัย แล้วกลับมานอนสบายในห้องพัก ห้องดีลักซ์ ขนาด 26-40 ตร.ม. ขยายพื้นที่ด้วยโซฟาทรงยาวริมหน้าต่างและระเบียงชมวิวสวนหรือสระว่ายน้ำ
ประเภทสุดท้ายคือห้องแฟมิลี่สวีทมาพร้อมเตียงคิงไซส์และเตียงสองชั้นสำหรับเด็กๆ และห้องดีสวีท ขนาด 60 ตร.ม.มีห้องนั่งเล่นส่วนตัวพร้อมมุมทำงานเล็กๆ และโซฟาชุดใหญ่ ส่วนห้องนอนสามารถเปิดเชื่อมไปยังห้องแต่งตัว พิเศษด้วยอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำแบบฝักบัว และระเบียงชมวิวในมุมที่สวยที่สุดของอ่าวนาง
ห้องพักทุกห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีขาวตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภาหัวเตียงเป็นภาพกราฟฟิกของเรือหัวโทงและเกาะแก่งในกระบี่ ทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้อัพเดทโลกโซเชียลได้เร็วผ่านไว-ไฟ รับความบันเทิงผ่านสมาร์ททีวีขนาด 49 นิ้ว และเปลี่ยนห้องให้หอมกรุ่นด้วยเครื่องทำน้ำร้อนพร้อมชากาแฟที่ให้บริการฟรีในห้องพัก
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มด้วยสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ และสระเด็กกลางวิวภูเขาหินปูน หรือปล่อยให้เด็กๆ ไปปล่อยพลังที่ดีคิดส์ ซึ่งเป็นทั้งคิดส์คลับและสนามเด็กเล่น ส่วนคุณพ่อคุณแม่สามารถไปปลดปล่อยความเครียดได้ที่สปาเจ้านางหรือออกกำลังกายที่ฟิตเนสดีฟิต
นอกจากนี้ ห้องอาหารระฆัง ไทยบิสโทร แอนด์ บาร์ ยังพร้อมให้บริการตลอดวันตั้งแต่เวลา 06.30-23.30 น. ซึ่งนอกจากอาหารไทยยอดนิยมอย่างต้มยำกุ้งและพะแนงไก่ ยังมีเมนูอาหารใต้อย่างหมี่แกงปูให้ลองลิ้มชิมรส รวมไปถึงเมนูนานาชาติไว้เป็นทางเลือกให้มาฝากท้องได้แบบไม่มีเบื่อ
รวมไปถึง ดีบาร์ จุดดับกระหายริมสระว่ายน้ำให้บริการทั้งค็อกเทลน้ำผลไม้ พิซซ่า และของว่างเบาๆ ให้พักท้องระหว่างวันในบรรยากาศสุดชิล
ถึงขนาดโรงแรมจะไม่ใหญ่โตแต่มีทุกอย่างครบ โดยนอกจากจะตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยว ยังมีห้องประชุมจัดเลี้ยง รับได้สูงสุด 200 คน ที่ห้องบอลรูมกนก ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม ซึ่งนอกจากจะสวยงามด้วยลวดลายไทย ยังน่าประทับใจจากทิวทัศน์ภายนอก
แม้โรงแรมจะตั้งอยู่บนเนินเขา แต่ไม่ใช่อุปสรรคในการเดินไปชายหาดซึ่งใช้เวลาเดิน 7 นาที ผ่านถนนสายหลักที่มีร้านอาหารและร้านค้าก็จะถึงอ่าวนางในทางตรงกันข้ามยังมองว่าเป็นจุดเด่นเพราะนอกจากชายหาดและท้องทะเลยังเผยให้เห็นธรรมชาติและภูเขาหินปูนตระหง่าน ซึ่งการมาเที่ยวทะเลแต่
อยู่ท่ามกลางป่าเขาเป็นอีกความรู้สึกที่ดี เหมือนได้เก็บของรักทั้งสองอย่างไว้ใกล้ตัว


