ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ในปี 2562
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วซึ่งได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับดาวพุธ
โดย วรเชษฐ์ บุญปลอด
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วซึ่งได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวอังคาร สัปดาห์นี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการปรากฏของดาวเคราะห์สว่างอีกสองดวง ได้แก่ ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ เมื่อสังเกตบนท้องฟ้าประเทศไทยตลอดปี 2562
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์สว่างดวงหนึ่งบนท้องฟ้า มีขนาดใหญ่และมวลสูงที่สุด การหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วทำให้ดาวพฤหัสบดีมีเส้นผ่านศูนย์กลางในแนวศูนย์สูตรยาวกว่าในแนวขั้ว สามารถใช้กล้องสองตาและกล้องโทรทรรศน์สังเกตเห็นดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวบริวารขนาดใหญ่ 4 ดวง
ดาวพฤหัสบดีมีพายุขนาดยักษ์เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่าจุดแดงใหญ่ (Great Red Spot) รูปร่างเป็นทรงรี ขนาดใหญ่กว่าโลก ตำแหน่งของจุดแดงใหญ่อยู่บริเวณละติจูด 22 องศาใต้ นอกจากจุดแดงใหญ่ ยังมีโอกาสเห็นพายุขนาดเล็กที่เรียกว่าจุดขาวและจุดมืด
ช่วงแรกของปี ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวคนแบกงู ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวนี้คั่นอยู่ระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับคนยิงธนู ปลายปีย้ายเข้าสู่กลุ่มดาวคนยิงธนู ช่วงแรกดาวพฤหัสบดีอยู่บนท้องฟ้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลาเช้ามืด สัปดาห์ก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค. ดาวศุกร์จะมาอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดี เข้าใกล้กันที่สุดในเช้ามืดวันที่ 23 ม.ค. ที่ระยะห่าง 2.4 องศา
กลางเดือน มี.ค. ดาวพฤหัสบดีทำมุม 90 องศา โดยห่างไปทางทิศตะวันตกของดวงอาทิตย์ จึงเห็นดาวพฤหัสบดีขึ้นเหนือขอบฟ้าราวเที่ยงคืน แล้วเคลื่อนไปอยู่สูงที่สุดบนท้องฟ้าทิศใต้ขณะดวงอาทิตย์ขึ้น วันที่ 10 มิ.ย. 2562 ดาวพฤหัสบดีผ่านตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์และใกล้โลกที่สุดในรอบปี สว่างที่โชติมาตร-2.6 สังเกตได้ตลอดทั้งคืน
ต้นเดือน ก.ย. ดาวพฤหัสบดีทำมุม 90 องศา โดยห่างไปทางทิศตะวันออกของดวงอาทิตย์ จึงเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่สูงบนท้องฟ้าทิศใต้ในเวลาหัวค่ำหลังดวงอาทิตย์ตก จากนั้นเคลื่อนต่ำลงจนตกลับขอบฟ้าราวเที่ยงคืน ปลายเดือน พ.ย. ดาวศุกร์จะผ่านมาอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดี เข้าใกล้กันที่สุดในคืนวันที่ 24 พ.ย. ที่ระยะ 1.4 องศา
ต้นเดือน ธ.ค.เป็นช่วงสุดท้ายที่มีโอกาสเห็นดาวพฤหัสบดี หลังจากนั้นดาวพฤหัสบดีจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นจนไม่สามารถสังเกตได้ อยู่แนวเดียวกับดวงอาทิตย์ในปลายเดือน ธ.ค. 2562
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในระบบสุริยะ รูปร่างคล้ายดาวพฤหัสบดี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของดาวเสาร์คือวงแหวนสว่างที่อยู่ล้อมรอบ เมื่อสังเกตจากโลก ดาวเสาร์จะหันขอบวงแหวนเข้าหาโลกทุกๆ 15-16 ปี ซึ่งทำให้ดูเหมือนดาวเสาร์ไม่มีวงแหวน ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2552
สำหรับปีนี้ สัปดาห์แรกๆ ของปีเรายังไม่เห็นดาวเสาร์ เนื่องจากดาวเสาร์มีตำแหน่งอยู่แนวเดียวกับดวงอาทิตย์ในต้นเดือน ม.ค. 2562 หลังจากนั้นดาวเสาร์จะทำมุมห่างดวงอาทิตย์มากขึ้น เริ่มเห็นได้ในเวลาเช้ามืดตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. โดยปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนูตลอดทั้งปีนี้
กลางเดือน ก.พ. เราจะเห็นดาวศุกร์กับดาวเสาร์อยู่ใกล้กัน โดยดาวเคราะห์ทั้งสองเคลื่อนมาอยู่ใกล้กันที่สุดในเช้ามืดวันที่ 19 ก.พ.ที่ระยะห่าง 1.2 องศา วันที่ 10 ก.ค. 2562 ดาวเสาร์อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์และใกล้โลกที่สุดในรอบปี สว่างที่โชติมาตร 0.1
ดาวเสาร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือน ธ.ค. โดยมีช่วงที่น่าสนใจคือดาวศุกร์จะผ่านมาอยู่ใกล้ดาวเสาร์ในคืนวันที่ 11 ธ.ค. ที่ระยะห่าง 1.8 องศา เมื่อใกล้สิ้นปี ดาวเสาร์ทำมุมเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นจนไม่สามารถสังเกตได้ โดยเคลื่อนไปอยู่แนวเดียวกับดวงอาทิตย์ในกลางเดือน ม.ค. 2563
ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (16-23 ธ.ค.)
ช่วงที่ผ่านมา ดาวอังคารกับดาวเสาร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ แต่ขณะนี้ดาวเสาร์ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนูมีตำแหน่งอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นในมุมมองจากโลก จึงเหลือแต่ดาวอังคารที่ยังคงเห็นได้ชัดเจนบนท้องฟ้าหลังดวงอาทิตย์ตก ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ ปลายสัปดาห์เข้าสู่กลุ่มดาวปลา เมื่อท้องฟ้ามืดลงจะเห็นดาวอังคารอยู่สูงบนท้องฟ้าด้านทิศใต้ เยื้องไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สังเกตได้จนใกล้ตกลับขอบฟ้าในเวลาก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย
ท้องฟ้าเวลาเช้ามืดมีดาวเคราะห์สว่าง 3 ดวง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดี ในสามดวงนี้ดาวศุกร์สว่างที่สุดและขึ้นเหนือขอบฟ้าก่อน มองเห็นได้ตั้งแต่เวลาประมาณตี 3 ครึ่ง หรือหลังจากนั้นไม่นาน โดยอยู่ทางทิศตะวันออกในพื้นที่ของกลุ่มดาวคันชั่ง
ดาวพุธและดาวพฤหัสบดีขึ้นเหนือขอบฟ้าในช่วงที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว โดยเริ่มสังเกตดาวพุธได้ตั้งแต่ราวตี 5 ครึ่ง หรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ดาวพุธทำมุมห่างดวงอาทิตย์ที่สุดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ช่วงนี้จึงกำลังเคลื่อนกลับเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวพฤหัสบดีอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้ามากกว่าดาวพุธ กำลังทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้น แต่ด้วยตำแหน่งที่ยังอยู่ใกล้ขอบฟ้า ต้นสัปดาห์จึงอาจสังเกตได้ยาก
เช้ามืดวันที่ 22 ธ.ค. ดาวพุธและดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้กันที่ระยะ 0.8 องศา โดยดาวพุธอยู่ทางซ้ายมือของดาวพฤหัสบดี มีโอกาสเห็นได้เมื่อท้องฟ้าไม่มีเมฆหมอกบดบังและจำเป็นต้องสังเกตจากสถานที่ซึ่งขอบฟ้าด้านทิศตะวันออก เยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เปิดโล่ง
สัปดาห์นี้เป็นครึ่งหลังของข้างขึ้น มองเห็นดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ โดยมีส่วนสว่างเพิ่มขึ้นทุกวัน จากมากกว่าครึ่งดวงเล็กน้อยในช่วงแรก ไปจนถึงจันทร์เพ็ญในคืนวันที่ 22 เข้าสู่วันที่ 23 ธ.ค. 2561
วันที่ 22 ธ.ค. 2561 ตำแหน่งของโลกบนวงโคจรทำให้โลกหันขั้วใต้เข้าหาดวงอาทิตย์มากที่สุด ทางดาราศาสตร์ถือเป็นวันเริ่มต้นฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูร้อนของซีกโลกใต้ สำหรับประเทศไทยซึ่งอยู่ในซีกโลกเหนือ ใกล้เส้นศูนย์สูตร เราจะเห็นดวงอาทิตย์มีตำแหน่งค่อนไปทางทิศใต้มากที่สุดในรอบปี เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นจะไม่ขึ้นทางทิศตะวันออกพอดี แต่เยื้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน ดวงอาทิตย์ไม่ได้อยู่เหนือศีรษะ แต่ค่อนไปทางท้องฟ้าด้านทิศใต้ และเมื่อดวงอาทิตย์ตกจะไม่ตกทางทิศตะวันตกพอดี แต่เยื้องไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
สถานีอวกาศนานาชาติหรือไอเอสเอสโคจรรอบโลกที่ความสูงประมาณ 400 กิโลเมตร ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตาเปล่าเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบ โดยมองเห็นเป็นดาวสว่างเคลื่อนที่บนท้องฟ้า มีโอกาสเห็นได้เฉพาะในเวลาเช้ามืดและหัวค่ำ สัปดาห์นี้เห็นได้หลายครั้ง ที่น่าสนใจมีดังนี้
วันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. 2561 สถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 18.37 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้น ถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 18.41 น.ที่มุมเงย 70 องศา โดยผ่านใกล้ดาวอังคารและดวงจันทร์ สิ้นสุดการมองเห็นใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลา 18.44 น.
วันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. 2561 ขณะท้องฟ้าสว่างพอสมควรแล้ว สถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 06.01 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางซ้าย ถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลา 06.04 น. ที่มุมเงย 57 องศา โดยผ่านเหนือดาวศุกร์ สิ้นสุดการมองเห็นใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 06.08 น.
วันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2561 สถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศใต้ในเวลา 05.09 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางซ้าย ถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลา 05.12 น. ที่มุมเงย 21 องศา โดยผ่านใกล้ดาวศุกร์ สิ้นสุดการมองเห็นใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 05.15 น.
วันอาทิตย์ที่ 23 ธ.ค. 2561 สถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 05.53 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางขวา ถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 05.56 น. ที่มุมเงย 32 องศา สิ้นสุดการมองเห็นใกล้ขอบฟ้าทิศเหนือในเวลา 05.59 น. (เวลาอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย)


