posttoday

กุยแก ให้มากกว่าแผนการณ์

11 พฤศจิกายน 2561

กุยแก (郭嘉) เป็นกุนซือฝ่ายโจโฉในยุคสามก๊ก

กุยแก (郭嘉) เป็นกุนซือฝ่ายโจโฉในยุคสามก๊ก ว่ากันว่าหากกุยแกอายุยืนขึ้นอีกสักนิด ขงเบ้งคงต้องเจอคู่ปรับคนสำคัญ

กุยแกเกิดในตระกูลดี มีการศึกษา เข้าสู่วงการเมืองตั้งแต่ยังหนุ่ม กุยแกตั้งใจว่าจะฝากชื่อเสียงไว้ในแผ่นดินอันปั่นป่วนปลายราชวงศ์ฮั่น

วิถีของคนมีปัญญาแต่ไร้กองกำลัง หากจะสร้างผลงานอย่างรวดเร็วย่อมต้องร่วมงานกับผู้นำที่มีกองกำลังและมีปณิธานดุจเดียวกัน

กุยแกเริ่มต้นด้วยการเข้าสังกัดอ้วนเสี้ยว-ลูกหลานตระกูลเสนาบดีสี่ชั่วคน

ศักยภาพตระกูล ทำให้อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำตัวเต็ง ที่จะนำความมั่นคงกลับมาสู่บ้านเมือง ก่อนจะบานปลายเลยเถิดแตกแยกวุ่นวาย

อ้วนเสี้ยวให้ความสำคัญกับกุยแกโดยดีและทันที ที่จริงกุยแกก็ควรจะพอใจกับสถานภาพที่ได้รับ แต่กลับรู้สึกหงุดหงิดไม่พึงใจ

กุยแกระบายกับเพื่อนร่วมงานว่า “อ้วนเสี้ยวดูเหมือนจะให้เกียรติลูกน้องดี แต่กลับไม่เข้าใจวิธีการใช้คน แผนการที่พวกเราเสนอให้มากมาย แต่เจ้านายแบบอ้วนเสี้ยวกลับตัดสินใจไม่ได้ นี่ไม่ใช่วิถีคนทำการใหญ่ได้สำเร็จ” แล้วเขาก็ผละตัวออกจากอ้วนเสี้ยวทันที ไม่ฟังเสียงรั้งตัวของเพื่อนร่วมงาน

กุยแกเป็นคนเด็ดขาด ฟันธง และอนาคตที่ตามมายังบอกว่า เขาเลือกเจ้านายเป็น

กุยแกย้ายสู่ค่ายโจโฉด้วยวัยเพียง 27 และดูจะถูกชะตากับโจโฉทันที ทั้งที่โจโฉมีกุนซือเจนโลกสูงวัยกว่านี้อยู่อีกเยอะ เป็นไปได้ว่าโจโฉก็เคยเป็นเด็กหนุ่มไฟแรง เคมีเลยตรงกัน

โจโฉเอ่ยปากว่า “คนที่ทำให้ภารกิจของข้าสำเร็จได้ ต้องเป็นท่านแน่นอน!”...

โจโฉฟันธงเป็น ไม่ต่างกับกุยแก...

กุยแกรู้ว่าโจโฉไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะอ้วนเสี้ยวได้อย่างไร ผลงานแรกๆ ของกุยแกคือการสร้างกำลังใจ วิเคราะห์ข้อดีของโจโฉ เทียบข้อเสียของอ้วนเสี้ยวให้โจโฉฟัง

คำวิเคราะห์ยกย่องโจโฉไว้สิบด้าน อาจฟังคล้ายคำป้อยอ แต่ก็ทำโจโฉมีความหวังอย่างเป็นรูปธรรม อย่างน้อยที่สุดก็คงทำให้โจโฉรักษาความดีทั้งสิบข้อต่อไป

ว่าแล้วกุยแกก็แจกแจงลำดับความสำคัญ ว่าก่อนโจโฉจะฉะกับอ้วนเสี้ยวผู้ยิ่งใหญ่ทางเหนือนั้น ต้องกำจัดลิโป้ทางตะวันออกก่อน

โดยอาศัยจังหวะอ้วนเสี้ยวรบติดพันกับกองซุนจ้าน ชิงกำจัดลิโป้-อุปสรรคที่จะทำให้พะวงหลังในอนาคต

ลิโป้คือเป้าหมายระยะสั้น เพื่อปราบอ้วนเสี้ยว-เป้าหมายใหญ่ระยะยาว

แต่เป้าหมายระยะสั้น กลับกลายเป็นศึกยาว ทัพโจโฉล้อมทัพลิโป้ได้แต่ตีไม่แตก โจโฉถึงขั้นถอดใจ แล้วกุยแกก็ออกมากระตุ้นให้ยืนหยัดไว้ “หยุดกลางคันไม่ได้ อีกก้าวเดียวก็จะทำสำเร็จแล้ว นายท่าน!”

หลายครั้ง ชีวิตวัดกันที่ความอึดต่ออีกนิด ที่สุดชัยชนะก็เป็นของโจโฉ ปูทางสู่การโฟกัสศึกปะทะอ้วนเสี้ยว

ยามโจโฉแทบถอดใจ กุยแกมักก้าวออกมาให้โจโฉเดินตามแผนอย่างมุ่งมั่นและอดทน เมื่อครั้งโจโฉทำศึกครั้งใหญ่กับอ้วนเสี้ยวก็เช่นกัน

ศึกนี้ยิ่งยืดเยื้อ แถมกองทัพโจโฉน้อยกว่าเห็นๆ

ไม่นานสัญญาณเตือนระวังหลังก็ดังขึ้น มีข่าวว่าซุนเซ็กขุนพลแดนใต้ตั้งตัวติด กำลังจะยกทัพมาตีโจโฉ

โจโฉและที่ปรึกษาหลายคนเห็นว่าต้องแบ่งกำลังไปเตรียมรับศึกซุนเซ็ก

แล้วกุยแกก็ลุกขึ้นมาฟันธง “ซุนเซ็กชอบฉายเดี่ยว ไปไหนมาไหนไม่ระวัง ตอนรวมดินแดนตั้งตัวยังสร้างศัตรูไว้เยอะ คนแบบนี้เห็นทีจะตายเพราะโดนลอบฆ่า นายท่านอย่ากังวลไป!”

แล้วซุนเซ็กก็โดนลอบสังหารตามคำกุยแก

ณ จุดนี้ คำของกุยแกแม่นระดับหยั่งรู้ฟ้าดิน

เมื่อทัพโจโฉมีโอกาสได้โฟกัสจึงปราบอ้วนเสี้ยวลงได้ในที่สุด ลูกๆ อ้วนเสี้ยวแตกกระเจิงขึ้นเหนือไป

โจโฉและที่ปรึกษาหลายคนเห็นควรตามตีเพื่อถอนรากถอนโคน กุยแกที่ตลอดมาสนับสนุนให้ลุยให้สุดกลับบอกว่า “หยุดก่อน! หากเราทำเป็นไม่สนใจตามตี ความขัดแย้งแบ่งมุ้งของลูกๆ อ้วนเสี้ยวในกงสีจะปะทุและทำลายกันเอง ถึงตอนนั้นค่อยซ้ำเติม”

โจโฉทำตาม และทุกอย่างเป็นตามนั้น ตระกูลอ้วนใกล้ล่มสลาย ลูกชายคนหนึ่งตาย อีกสองหนีไปพึ่งชนกลุ่มน้อยทางเหนือ

ขณะที่กุนซือส่วนหนึ่งเห็นลูกอ้วนเสี้ยวกลายเป็นคนชายขอบไร้แผ่นดิน ไม่ควรต้องสนอีกต่อไป กุยแกกลับบอกว่า “ถอนรากต้องให้หมดจด อาณาเขตเราจึงจะเป็นกอบเป็นกำ ไม่ต้องระแวงศึกทางเหนืออีกต่อไป และเพราะมันหนีกันไปไกล ย่อมไม่คาดฝันว่าเราจะตามตี จึงควรยกทัพเร็วโจมตีเช่นสายฟ้าแลบไม่ให้ตั้งตัว”

โจโฉยังระแวงหลัง เล่าเปียวและเล่าปี่อาจจะร่วมมือกันหาจังหวะมาโจมตี กุยแกวิเคราะห์ว่า “เล่าเปียวพูดจาดูดี แต่บู๊ไม่เป็น แถมเจ้าตัวระแวงว่าเล่าปี่จะสร้างอิทธิพลทับเส้น สองคนนี้ไม่มีทางจับมือกันรุกรบเรา ฟันธง!”

ประดุจกุยแกมีกล้องวงจรปิดติดทุกก๊ก เอกสารประวัติศาสตร์ฝั่งเล่าปี่บันทึกไว้ “เล่าปี่เสนอเล่าเปียวใช้จังหวะนี้ตีโจโฉ แต่เล่าเปียวทำทีไม่แคร์”

ศึกถอนรากตระกูลอ้วนจึงไปต่อ แต่โชคร้าย กุยแกสุขภาพไม่ดี เส้นทางเดินทัพขึ้นเหนือทุรกันดาร กุยแกจึงเสียชีวิตระหว่างทาง จบตำนานกุนซือระดับเทพ ด้วยวัย 38 ปี... โจโฉเสียใจยิ่งนัก

สิบปีที่โจโฉตั้งตัวทะยานเป็นเส้นทแยง มีกุยแกเป็นส่วนสำคัญ

หลายคนสรุปชีวิตกุนซือของกุยแกไว้ “กุยแกถนัดใช้แผนเสี่ยงตาย” เมื่อใดที่ต้องทำศึกฉิวเฉียดชี้ขาด ให้กุยแกฟันธง รับรองไม่ผิดหวัง ยิ่งเรื่องมองคน กุยแกคือระดับทะลุทะลวง

แต่กุยแกไม่ได้มีดีแค่มองขาด ที่ปรึกษาอย่างกุยแกยังรู้ว่าจะสร้างความมั่นใจให้โจโฉได้อย่างไร และยังมีบทบาทเป็นผู้ผลักดันให้องค์กรเดินตามแผนอย่างสุดกำลัง

เอาเข้าจริง กุยแกใช่จะคาดการณ์ถูกทุกสิ่ง ครั้งหนึ่งเขาแนะนำให้โจโฉโจมตีเล่าปี่ โดยไม่ต้องระแวงอ้วนเสี้ยวจอมลังเล แต่อ้วนเสี้ยวกลับตีตลบหลัง ดีที่ขุนพลของโจโฉตั้งยันสุดกำลัง จนโจโฉต้องย้ายทัพกลับไปแก้เกม (บ้างบอกว่าศึกนี้โจโฉตัดสินใจเอง แต่ในฐานะที่ปรึกษาคนสนิทอาจถือว่าบกพร่องที่ไม่ได้ทัดทาน)

ศึกถอนรากตระกูลอ้วนก็เช่นกัน ทัพโจโฉกลับมาด้วยความสะบักสะบอมเฉียดตายจากความทุรกันดาร

กุยแกจึงเป็นกุนซือระดับเทพเดินดิน มิใช่เทพลอยตัวที่เปิดนิยายสามก๊กจนเคยตา แล้วอธิบายคล่องปากในทุกเรื่อง

ผลสำเร็จในแผนเสี่ยงตายของกุยแก จึงไม่ใช่อยู่ที่ว่าแค่รู้สถานการณ์ อ่านคนออก แต่ต้องคอยผลักดันให้สุดทางอีกด้วย

ปราศจากการผลักดัน สร้างกำลังใจให้แผนไปสุดทางของกุยแก ก็ไม่แน่ว่าแผนจะสำเร็จตามคาดการณ์ได้หรือไม่

แผนเสี่ยงตายจะสำเร็จได้ จึงไม่ได้เกิดจากแค่การวิเคราะห์ปัจจุบันหรือคาดการณ์อนาคตเท่านั้น แต่เกิดจากการทำให้ทีม (โดยเฉพาะผู้นำ) เห็นในทิศทาง และทุ่มเทจนมันเกิดขึ้นจริง

กุญแจดอกสำคัญคือการผลักดันนั่นเอง

คนหยั่งรู้ทุกเรื่อง ทายถูกทุกอย่างที่นั่งคอมเมนต์เฉยๆ แล้วจบด้วย “เห็นมั้ย... ว่าแล้ว...” จึงต่างกับกุนซือระดับกุยแกอย่างสิ้นเชิง

หลังกุยแกตายไป โจโฉเคยย้อนพูดถึงกุยแกว่า “ตลอดมากุยแกมักพูดเสมอว่าเขาสุขภาพไม่ดี ไม่เหมาะแก่การอยู่แดนใต้ ถ้าต้องไปอยู่เมื่อไหร่คงอายุไม่ยืน แต่เมื่อคุยกับเขาทีไร ทุกครั้งก็บอกให้ข้าบุกตีเกงจิ๋ว (เมืองสำคัญทางใต้) ทุกที เขาใช้ชีวิตพนันความสำเร็จของข้าโดยแท้...”

หลังพ่ายศึกผาแดง (เซ็กเพ็ก) ครั้งใหญ่ โจโฉยังเคยรำพึงว่า “หากกุยแกยังอยู่ ข้าคงไม่เสียท่าเช่นนี้แน่...”

ใช่ว่าเพราะไม่มีใครฉลาดพอที่จะให้คำปรึกษาว่าศึกครั้งนี้อันตราย แต่เป็นเพราะที่ปรึกษาที่ทำให้โจโฉมั่นใจ พร้อมพนัน ฟันธงในแผนเสี่ยงตาย ได้จากโจโฉไปเสียแล้ว...

ป.ล. ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์ อาจไม่ตรงกับในนิยายบ้างในบางประเด็น

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’