posttoday

เพิ่มมูลค่า‘กล้วย’ สู่‘กราโนล่าพาวเวอร์บาร์’ นวัตกรรมอาหารพลังงานสูง

30 กันยายน 2561

กราโนล่า (Granola) อาหารตะวันตกให้พลังงานสูง

โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
 
กราโนล่า (Granola) อาหารตะวันตกให้พลังงานสูง เป็นได้ทั้งอาหารเช้าและของทานเล่น ที่หลายคนอาจคุ้นตากับหลากเมล็ดธัญพืชอบกรอบ ทั้งข้าวโอ๊ต ถั่ว ลูกเกด นำมาโรยในเมนูสลัดผักเพิ่มอรรถรสในการทานผัก หรือเพิ่มรสชาติเมื่อผสมอยู่ในโยเกิร์ตถ้วยโปรด
 
แต่สำหรับ “กราโนล่าบาร์” (Granola bar) หรือบางครั้งเรียกว่า “ซีเรียลบาร์” คือ กราโนล่าที่ถูกอัดให้เป็นแท่งและนำไปอบ นิยมกินเป็นขนมหรืออาหารว่าง และด้วยเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง จึงเหมาะกับนักกีฬาที่ต้องใช้พลังงานมาก นำมาบริโภค สามารถเก็บได้นาน และมีน้ำหนักเบา จึงมักถูกนำไปเป็นเสบียงสำหรับผู้เดินทางไกล ซึ่งในต่างประเทศมีผู้คิดค้นกราโนล่าบาร์มาสักระยะหนึ่งแล้ว
 
ล่าสุด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือไอแทป (ITAP : Innovation and Technology Assistance Program) ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการผลิตอาหารขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน PRIMARY GMP ที่ถือเป็นมาตรฐานการผลิตขั้นต้น ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศว่าด้วยเรื่องวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายเป็นหลัก
 

เพิ่มมูลค่า‘กล้วย’ สู่‘กราโนล่าพาวเวอร์บาร์’ นวัตกรรมอาหารพลังงานสูง

 
ณัฐรดา แก้วชื่นชัย ที่ปรึกษาโครงการ สวทช. ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ไอแทปได้ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เหมาะสม ในส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดมองดอยน่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้วยทอดบรรจุถุงแบบปรุงรสและไม่ปรุงรส และเป็นสถานประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐาน PRIMARY GMP ที่มีโจทย์ความต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างชัดเจน และผู้ประกอบการเป็นคนในชุมชนที่มีแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมเรียนรู้และเปิดรับไอเดียใหม่ๆ โดยโครงการนี้ไอแทปได้ประสานงานเชิญ วิญญู ศักดาทร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนจาก “กล้วยอบกรอบ” ต่อยอดเป็น “กราโนล่าพาวเวอร์บาร์” ที่ให้พลังงานสูงตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 54 ธุรกิจ จาก 50 จังหวัดทั่วประเทศที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน PRIMARY GMP
 
พิมพ์วิมล มาอินทร์ กรรมการผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดมองดอยน่าน กล่าวว่า มองดอยน่านเป็นผู้ผลิตกล้วยทอดบรรจุถุงแบบปรุงรสและไม่ปรุงรส มีขั้นตอนการคัดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี รูปลักษณ์สวยงามและสมบูรณ์ เพื่อจัดจำหน่าย จึงทำให้มีเศษกล้วยทอดที่แตกหักในกระบวนการผลิตจำนวนมากที่ไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ จึงทำให้เกิดแนวคิดที่จะนำเศษกล้วยที่ถูกคัดออกนี้มาแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัยและมีคุณประโยชน์ผู้บริโภค นอกเหนือจากกล้วย น้ำผึ้ง และข้าวโอ๊ต ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ กราโนล่าพาวเวอร์บาร์แล้ว ยังได้นำธัญพืชที่หาได้จากท้องถิ่นอีก 5 ชนิด มาเป็นส่วนประกอบสำคัญด้วย อาทิ  งาขี้ม้อน งาดำ ฟักทอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วลิสง คาดว่าจะสามารถผลิตและวางจำหน่ายได้ภายในเดือน ต.ค.นี้
 

เพิ่มมูลค่า‘กล้วย’ สู่‘กราโนล่าพาวเวอร์บาร์’ นวัตกรรมอาหารพลังงานสูง

 
อย่างไรก็ดี เนื่องจากมองดอยน่านเป็นธุรกิจ SMEs ขนาดเล็ก มีกำลังการผลิตสูงสุด 50-100 กิโลกรัม (กก.)/วัน และเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 1,000 กก./เดือน มีพนักงานที่เป็นคนในพื้นที่และดูแลเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน จนทุกวันนี้ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ธุรกิจเติบโตขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของชุมชนและได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สถานประกอบการแม่ข่ายของ อย.ปี 2017 และปี 2018 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบของอุตสาหกรรม จ.น่าน และที่สำคัญธุรกิจยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วย
 
“เริ่มต้นแนวคิดที่ต้องการ สร้างคน สร้างงาน และสร้างอาชีพ จากเดิมที่ขายกล้วยอบกรอบถุงละ 10 บาท ทำให้คนในชุมชนมีงานทำ มีรายได้จากการปลูกและขายกล้วย ผู้สูงอายุในชุมชนก็มีรายได้จากการแกะกล้วย โดยไม่ต้องรอเงินจากลูกหลานที่ส่งมาให้ หรือแรงงานวัยกลางคนที่ไม่อยากทิ้งครอบครัวไปทำงานต่างถิ่นก็มาทำงานกับเรา รวมถึงนักเรียนจากโรงเรียนบริเวณใกล้เคียงก็หารายได้เสริมจากการนำกล้วยไปขาย มีเงินค่าขนม ลดภาระของพ่อแม่ ก็ทำให้มีกำลังใจในการทำงานและต้องการต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ”
 

เพิ่มมูลค่า‘กล้วย’ สู่‘กราโนล่าพาวเวอร์บาร์’ นวัตกรรมอาหารพลังงานสูง

 
วิญญู ศักดาทร อาจารย์คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญโครงการไอแทป สวทช. กล่าวว่า มองดอยน่านเป็นผู้ผลิต “กล้วยอบกรอบ” ผลิตภัณฑ์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อใน จ.น่าน ทั้งรูปแบบและภาพลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัย ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ไม่ยาก ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบและเพิ่มคุณประโยชน์ให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการนำเศษกล้วยอบกรอบที่เหลือมาผสมกับธัญพืชเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ “กราโนล่าแบบแท่ง” เป็นขนมขบเคี้ยวที่พกพาสะดวก สามารถนำไปผสมนมทานเป็นอาหารเช้าได้ที่อุดมไปด้วยประโยชน์จากธัญพืชและให้พลังงานจากกล้วย น้ำผึ้ง และข้าวโอ๊ตเป็นหลัก ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนที่รักสุขภาพได้อีกช่องทางหนึ่ง
 
“กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ บี6 บี12 และวิตามินซี ช่วยเพิ่มพลังให้กับสมอง เพราะมีสารที่ช่วยทำให้เกิดสมาธิและมีการตื่นตัวตลอดเวลา ส่วนธัญพืชมีประโยชน์ที่อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินบีรวม แร่ธาตุต่างๆ และใยอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งปกป้องการเสื่อมสภาพของเซลล์ เสริมสร้างระบบประสาทและเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรงสมบูรณ์ จึงเป็นอาหารทานเล่นที่เหมาะกับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน รวมถึงกลุ่มที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลักด้วย”
 

เพิ่มมูลค่า‘กล้วย’ สู่‘กราโนล่าพาวเวอร์บาร์’ นวัตกรรมอาหารพลังงานสูง

 
“กราโนล่าพาวเวอร์บาร์” จากเศษกล้วยทอดกรอบเหลือทิ้ง ไร้มูลค่า แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการ นำมาผสมเข้ากับธัญพืชที่อุดมโภชนาการ จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมอาหารพลังงานสูง ที่ทั้งมีคุณค่าและสามารถเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบท้องถิ่น สู่อาหารพลังงานสูงรสชาติดี ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ที่มีอาหารพลังงานสูงคิดค้นสูตรโดยคนไทย ซึ่งในอนาคตอาจพัฒนาต่อยอดเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศก็เป็นได้

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025