posttoday

เรือล่มภูเก็ตทำทัวร์จีนมาไทยช่วงวันชาติลด ชี้"เมียนมา"ม้ามืดจุดหมายใหม่!

25 กันยายน 2561

ททท.เผยเรือล่มภูเก็ตส่งผลกระทบชาวจีนเที่ยวไทยช่วง "โกลเด้น วีค" ลดลง 0.7% ชี้หากไม่มีเหตุนี้จะมาเพิ่มขึ้น 10-20% เผยเมียนมากำลังเป็นประเทศม้ามืดแหล่งท่องเที่ยวของชาวจีน

ททท.เผยเรือล่มภูเก็ตส่งผลกระทบชาวจีนเที่ยวไทยช่วง "โกลเด้น วีค" ลดลง 0.7% ชี้หากไม่มีเหตุนี้จะมาเพิ่มขึ้น 10-20% เผยเมียนมากำลังเป็นประเทศม้ามืดแหล่งท่องเที่ยวของชาวจีน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เรือล่มที่ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา คาดว่า จะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงวันชาติจีน (โกลเด้นวีค) ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของชาวจีนที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 2.05 แสนคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.7% คาดว่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 6,180 ล้านบาท สูงกว่ารายได้ของปีก่อนที่ทำได้ 5,673 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.9 %

“อัตราการเติบโตในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลงในปีนี้ เป็นผลจากผลกระทบเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย เพราะหากเหตุการณ์ปกติคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าวของปีนี้ 10 -20% หรือมีจำนวน 2.4-2.5 แสนคน อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปีนี้ ททท.จะพยายามให้นักท่องเที่ยวจีนเป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ 10.5-11 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี 9.8 ล้านคน”นายยุทธศักดิ์ กล่าว

สำหรับยอดการจองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้า ระหว่าง 1 -7 ต.ค.2561 พบว่า มียอดจองจากจีนเข้าไทยลดลง 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.2561 มีเที่ยวบินใหม่จากจีนเข้าไทย 260 เที่ยวบิน มีที่นั่งประมาณ 46,567 ที่นั่ง เดินทางมาจากเมืองฉางชามากที่สุด รองลงมาคือ หังโจว เซี่ยงไฮ้ เฉินตู ไท้หยวน เทียนจีน และคุณหมิง และมีเส้นทางจากเมืองรองของจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเช่น ซุนยี่ ว่านเชี่ยน หายกัน เหยียนเฉิง และหลินยี่

ทั้งนี้ การคาดการณ์ของบริษัทนำเที่ยวจีน ถึงการเดินทางออกของนักท่องเที่ยวในช่วงโกลเด้น วีค ปีนี้ พบว่า ประเทศที่อำนวยความสะดวกด้านวีซ่าหรือยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยปีนี้มี 73 ประเทศที่ยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน หรือให้ทำวีซ่าที่สนามบินของประเทศที่เดินทางถึง (Visa on Arrival) แก่นักท่องเที่ยวที่ถือพาสปอร์ตธรรมดาเพิ่มขึ้น 8 ประเทศ และมี 13 ประเทศที่ยกเว้นวีซ่า ส่วนที่เหลืออีก 47 ประเทศเป็นการให้ Visa on Arrival

ขณะที่ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนต้องยื่นขอวีซ่า พบว่า แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดคือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ไทย ไต้หวัน และสิงคโปร์ เป็นที่สังเกตว่า แหล่งท่องเที่ยวที่มีปัญหากับจีนไม่ว่าจะเป็นไทยที่ประสบปัญหาเรือล่ม สหรัฐฯ ที่ประสบปัญหาการขึ้นภาษีการค้ากับจีน หรือญี่ปุ่นที่ประสบภัยธรรมชาติจากแผ่นดินไหวและไต้ฝุ่นถล่ม ยังได้รับความนิยมแม้จะไม่คึกคักเท่าในภาวะปกติ

นอกจากนี้ รายงานของซีทริป (Ctrip) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของจีน พบว่า ประเทศที่ทำวีซ่าเร็วที่สุดคือ ตุรกี มาเลเซีย ศรีลังกาและเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วันทำการ รองลงมาคือ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย และประเทศอื่นๆในอาเซียน ใช้เวลา 4-6 วันทำการ ขณะที่ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ใช้เวลา 9 วันทำการ ส่วนสหรัฐฯใช้เวลา 10 วันทำการ และเยอรมนี 12 วันทำการ ซึ่งประเทศที่ใช้เวลาขอวีซ่าน้อยจะได้เปรียบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่นิยมวางแผนการเดินทางระยะยาว หรือตัดสินใจเดินทางกะทันหันเมื่อมีวันหยุด

อย่างไรก็ตาม พบว่า เมียนมา ถือเป็นม้ามืดของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนในปีนี้ เนื่องจากได้เริ่มเปิด Visa on arrival ให้นักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยมีค่าธรรมเนียม 50 เหรียญสหรัฐฯ และยังรับการจ่ายเงินผ่านอาลีเพย์และวีแชท เพย์เม้นต์ได้ด้วย รวมทั้งยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยจะทดลองเป็นเวลา 1 ปี