บุรีรัมย์หวังคืนฟอร์ม อัดเทโรคว้าแชมป์

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2018 อย่างเป็นทางการในเกมนี้ โดยขอเพียง 3 คะแนน ก็จะทำแต้มทิ้งขาดทันที แต่ต้องจับตาดูว่าผู้มาเยือน โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ยังหนีตายอย่างระทึกจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้หรือไม่ ในการพบกันค่ำวันนี้ (22 ก.ย.)

 

 

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี 75 แต้ม จาก 30 นัด นำหน้าอันดับ 2 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 9 แต้ม และมีเฮดทูเฮดที่เหนือกว่า โดยเกมนี้ขอเพียงคว้าชัยชนะในบ้านได้ก็จะผงาดคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ทันที ซึ่ง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ออกโรงกระตุ้นทีมให้ลืมความผิดหวังในเกมล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่แพ้ต่อ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-2 จนร่วงตกรอบฟุตบอลถ้วยลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ 

 

“อดีตผ่านไปแล้ว เราต้องอยู่กับปัจจุบัน วันเสาร์เราจะต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ เพื่อที่จะเก็บชัยชนะนัดสำคัญที่สุดของฤดูกาลนี้ ชัยชนะที่จะทำให้เราเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ของไทยลีกที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน 9 ฤดูกาล กับแชมป์ 6 สมัย” เนวิน กล่าว

 

นายใหญ่ปราสาทสายฟ้ายังยืนยันว่าไม่ประมาท “มังกรไฟ” แน่นอน เพราะคู่ต่อสู้กำลังหลังพิงฝาและเลือดเข้าตา ต้องการเก็บชัยชนะเพื่ออยู่รอดให้ได้ในไทยลีก ดังนั้น จึงมาสู้แค่ตายแน่นอน ที่สำคัญฤดูกาลนี้ไม่มีทีมใหญ่หรือทีมเล็ก มีแต่ทีมหัวใจใหญ่หรือทีมหัวใจเล็ก แพ้-ชนะ ตัดสินกันที่หัวใจ

 

ความพร้อมเกมนี้ โบซิดาร์ บันโดวิชเฮดโค้ชชาวเซิร์บจะไม่สามารถใช้งานชิติพัทธ์ แทนกลาง กองหลังที่ติดโทษแบน โดยคาดว่าจะเป็น อภิวัฒน์ งั่วลําหิน ที่ได้โอกาสลงทำหน้าที่แทนร่วมกับพรรษา เหมวิบูลย์ และอันเดรส ตูเญซ นอกจากนี้ยังต้องรอเช็กความฟิตของสุภโชค สารชาติ อีกราย

 

ส่วนที่เหลือฟูลทีมนำโดย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต หอกบราซิลผู้นำดาวซัลโว 29 ประตู พร้อมด้วย ออสวัลโด ฟิลโญ คู่หูเพื่อนร่วมชาติ โดยมี จักรพันธ์ แก้วพรม บงการเกมกลางสนาม

 

ด้าน โปลิศ เทโร สถานการณ์ยังไม่พ้นวิกฤตมีโอกาสตกชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีมตลอดระยะเวลา 22 ปี โดยปราชัยมาแล้ว 3 นัดติด ล่าสุดเพิ่งแพ้คาบ้านต่อแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ที่ตกชั้นไปแล้ว 2-3 ชนิด โดนนำก่อนถึง 3 ประตู ปัจจุบันรั้งอันดับ 15 ของตารางมี 33 คะแนน ตามหลังโซนปลอดภัย 3 แต้ม

 

“ในบรรดาทีมลุ้นหนีตกชั้น เรามีแต้มค่อนข้างน้อย เราไม่มีทางเลือกต้องเก็บ 3 คะแนน ให้ได้ทุกเกม อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่จบฤดูกาลเราจะสู้ในทุกเกม ทุกคนรู้ว่าอีก 4 แมตช์ ที่เหลือสำคัญมาก เราจะต้องเล่นให้เหมือนนัดชิงชนะเลิศทุกนัด บรรยากาศในทีมค่อนข้างดีและเราก็จะเต็มที่กับทุกนัด” ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมเผย

 

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าการเปลี่ยนโค้ชเป็นครั้งที่ 3 ในซีซั่นจะไม่ส่งผลกระทบแน่นอน เพราะ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค รู้จักนักเตะเป็นอย่างดี ที่สำคัญเกมนี้ได้พักมา 1 สัปดาห์เต็ม ทำให้นักเตะทุกคนพร้อมลงสนาม

 

เกมนี้คาดว่า “มังกรไฟ” จะยึด 11 แข้งหลักจากนัดที่แล้ว นำโดย มิคาเอล เอ็นดรี กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่ยิงไปแล้ว 15 ประตูเป็นความหวังสำคัญ ส่วน อ่องธูแนวรุกเมียนมา ที่ฟอร์มตกลงในเลกสองทำได้แค่ 1 ประตู มีโอกาสถูกพัก

 

ความน่าจะเป็น : บุรีรัมย์ชอกช้ำมาคงไม่พลาดท่าอีก แม้มังกรไฟจะมุ่งมั่นแต่คงยากที่จะต้านทานความแกร่ง